10แนวโน้มอีคอมเมิร์ซแรงรับปี57

โดย...พรหมเมศร์ ศิริสุขวัฒนานนท์ 

สถานการณ์การเมืองร้อนระอุขึ้นทุกวัน การปะทะของกลุ่มผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่ก็มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นเป็นลำดับ แต่กระนั้นการทำธุรกิจที่แม้จะได้รับผลกระทบแค่ไหนก็ไม่สามารถหยุดได้ ต้องดิ้นรนหาช่องทางเพื่อสร้างรายได้และกำไรเพื่อต่ออายุธุรกิจให้อยู่รอด

ช่องทางหนึ่งคือ อีคอมเมิร์ซ เพราะจะว่ากันแล้วเหตุรุนแรงทางการเมืองมักจะกระจุกตัวอยู่ในกรุงเทพฯ เป็นหลัก แต่ตลาดทั่วประเทศยังพร้อมจับจ่ายใช้สอยอยู่บ้าง ดังนั้นการทำอีคอมเมิร์ซจึงเป็นโอกาสในการสร้างรายได้จากรอบนอก

ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ กรรมการผู้จัดการและผู้ก่อตั้งบริษัท ราคูเท็น ตลาดดอทคอม ผู้ให้บริการเว็บไซต์ ตลาดดอทคอม เปิดเผยว่า แม้ว่าจะมีปัจจัยลบ แต่อีคอมเมิร์ซในปี 2557 ยังน่าสนใจอยู่มาก จากจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตที่เพิ่มขึ้น จำนวนผู้ใช้สมาร์ทโฟนที่เพิ่มขึ้น และการเปิดรับการช็อปปิ้งออนไลน์ การจ่ายเงินทางออนไลน์ ก็ได้รับความน่าเชื่อถือมากขึ้นด้วย จึงเห็นธุรกิจขนาดกลางและใหญ่ตบเท้าก้าวเข้าสู่ธุรกิจออนไลน์อย่างเป็นรูปธรรม

จากภาพรวมที่เกิดขึ้นทำให้เห็นแนวโน้มที่เป็นกุญแจสำคัญของตลาดอีคอมเมิร์ซไทยในปี 2557 ที่เห็นได้ชัดว่ามาแรงแน่คือ

1.การค้าผ่านมือถือจะเติบโตสูงมาก (เอ็มคอมเมิร์ซ)

ปีนี้จะเป็นปีที่โทรศัพท์มือถือกลายเป็นช่องทางหลักของการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของผู้คน ราคูเท็น ตลาดดอทคอม พบว่าการขายสินค้าผ่านทางมือถือเติบโตขึ้นถึง 158% แสดงให้เห็นว่าคนไทยเริ่มคุ้นเคยกับการใช้โทรศัพท์มือถือในการช็อปปิ้งออนไลน์มากขึ้น นอกเหนือไปจากการใช้เพื่อติดตามข่าวสารเพียงอย่างเดียว

2.โมบายแชตและโซเชียลมีเดียช่วยขายของ

โมบายแชต ได้รับความนิยมในหมู่คนไทยเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะแอพพลิเคชั่น ไลน์ มีจำนวนผู้ใช้ 22 ล้านราย บริษัทจำนวนมากเปิดตัว Official Account เพื่อติดต่อสื่อสารโดยตรงกับนักช็อป รวมไปถึงเพื่ออัพเดทและแชร์ข้อมูลของร้านค้าและโปรโมชั่นพิเศษต่างๆ เป็นช่องทางในการเพิ่มยอดขายให้กับร้านค้า

3.จำนวนผู้แข่งขันในตลาดเพิ่มขึ้น

การแข่งขันในตลาดสูงขึ้นจากคู่แข่งทั้งในประเทศและต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น ดังนั้นผู้ประกอบธุรกิจต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อที่จะให้บริการกับนักช็อปได้อย่างดีกว่าเจ้าอื่นๆ ในโอกาสนี้ เชื่อว่าจะมีการพัฒนาแพลตฟอร์มใหม่เพื่อช่วยให้การทำธุรกิจของคุณง่ายกว่าที่ผ่านมา นักช็อปและร้านค้าต่างจะได้รับประโยชน์จากแพลตฟอร์มใหม่ ซึ่ง ราคูเท็น ตลาดดอทคอม ก็พัฒนาเช่นกัน

4.การแข่งขันทางราคามีมากขึ้น

มีเว็บเปรียบเทียบราคา www.attackprice.com หรือ www.priceza.com ช่วยในการตัดสินใจเลือกเว็บไซต์ที่ให้ราคาดีที่สุด ร้านค้าใดอยู่ในอันดับต้นๆ ของเว็บเปรียบเทียบราคาได้ คือโอกาสที่ดีกว่าแน่นอน

5.การค้าออนไลน์กับคนเฉพาะกลุ่มจะมีมากขึ้น

การค้าขายกับตลาดและกลุ่มเป้าหมายเฉพาะกลุ่มมีมากขึ้น โดยเฉพาะในโลกออนไลน์ เพราะต้นทุนที่ต่ำกว่า แต่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเฉพาะได้เป็นอย่างดี เช่น หมวดสินค้าเพื่อแม่และเด็ก ร้านสัตว์เลี้ยง เครื่องใช้ในครัว และสินค้าสำหรับกลุ่มชายรักชาย เป็นต้น

6.สินค้าดิจิตอลจะขายดีเป็นเทน้ำเทท่า

สินค้าดิจิตอลประเภทซอฟต์แวร์ แอพพลิเคชั่น, อีบุ๊ก หรือบริการทางออนไลน์ จะขายดีมากขึ้นในปีนี้ เห็นได้ชัดว่าคนไทยนิยมซื้อสินค้าประเภทดิจิตอลอยู่แล้ว แต่หากพิจารณาให้ดีจะพบว่าสินค้าประเภทนี้ส่วนใหญ่จะเป็นของ|ต่างประเทศ ดังนั้นจึงเป็นโอกาสให้คนที่จะทำสินค้าประเภทนี้มาขาย ซึ่งข้อดีคือการขายสินค้าประเภทดิจิตอลจะไม่มีค่าส่งสินค้าและไม่ต้องกังวลเรื่องการสต๊อกสินค้า เมื่อลูกค้าจ่ายเงินเราสามารถส่งมอบได้ทันที และยังสามารถขายได้ทั่วโลกอีกด้วย

7.การตลาดออนไลน์จะฉลาดเป็นกรดมากขึ้น

เทคนิคการตลาดออนไลน์ เช่น การตลาดแบบติดตามลูกค้าซ้ำและย้ำอีกครั้ง เพื่อปิดการขายให้ได้หรือจะเป็นการตลาดแบบเจาะกลุ่มเป้าหมายแบบเฉพาะเจาะจง สามารถเลือกกลุ่มเป้าหมายของลูกค้าของคุณได้ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจของคุณได้มากขึ้น

8.การชำระเงินผ่านออนไลน์จะเติบโตสุดๆ

การชำระเงินมีความน่าเชื่อถือ ปลอดภัย ทำให้การตัดสินใจซื้อสินค้าผ่านอีคอมเมิร์ซเติบโตสูงขึ้น ทั้งยังสะดวก รวดเร็ว มีช่องทางที่หลากหลาย นอกจากธนาคาร ยังมีผู้ให้บริการ เช่น ThaiEpay. com หรือ Paysbuy.com ช่องทางเหล่านี้เองที่จะช่วยสนับสนุนให้ผู้คนหันมาช็อปปิ้งผ่ายอีคอมเมิร์ซมากยิ่งขึ้น

9.ระบบจัดการและส่งสินค้าครบวงจร

หากธุรกิจของคุณเติบโตจนมียอดขาย 50-100 รายการต่อวัน จะทำให้การจัดการ การบริหารสินค้า การส่งสินค้า |การติดต่อประสานกับลูกค้าจะกลายเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและวุ่นวายขึ้นมาก ราคูเท็น ตลาดดอทคอม จึงมีแผนเปิดตัวระบบการจัดการแบบครบวงจรเพื่อช่วยร้านค้าในการบรรจุสินค้าและจัดส่งสินค้าให้ถึงมือนักช็อปทั้งหลาย โดยร้านค้านำใบสั่งซื้อจากนักช็อปมา เหล่าทีมงานจะคอยช่วยเหลือท่านในขั้นตอนต่อไปเอง

10.การเปลี่ยนผู้ชมเป็นผู้ซื้อ

สิ่งที่คนทำการค้าออนไลน์ให้ความสำคัญมากที่สุดคือ “การเปลี่ยน|ผู้ชม (Visitor) ให้เป็นผู้ซื้อ (Buyer) หรือเรียกว่า Conversion (CVR)” เพราะหากเว็บไซต์มีคนเข้าหมื่นคนต่อวัน แต่มันจะไม่มีความหมายเท่าใดหากคนเหล่านั้นไม่ซื้อของอะไรเลย ดังนั้น อัตราการเปลี่ยนผู้ชมเป็นผู้ซื้อ (CVR) จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ ที่ธุรกิจคุณจะต้องโฟกัส