กล้องติดรถยนต์พยานสำคัญบนท้องถนน

โดย...โพสต์ทูเดย์ออนไลน์

ไม่น่าเชื่อว่า"กล้องติดรถยนต์"จะกลายมาเป็นอุปกรณ์ไอทีที่คนใช้รถใช้ถนนในเมืองไทยนำมาพูดถึงบอกต่อกันมากที่สุดในยามนี้

ไม่ว่าการบันทึกภาพรายละเอียดของการเกิดอุบัติเหตุ อย่างโดนปาดหน้า เบรกกะทันหัน เฉี่ยว-ชนแล้วหนี  หรือการติดตั้งไว้เพื่อ'ฟ้องด้วยคลิป'ในกรณีที่อ้างว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกลั่นแกล้ง รีดไถ  

หลักฐานอันเป็นภาพเคลื่อนไหว (บางรุ่นมีเสียงด้วย) ชนิดนี้ ถูกยกให้เป็นพระเอกคนใหม่ที่หลายคนยืนยันว่าสามารถช่วยให้อบอุ่นใจปลอดภัยขึ้น

นิภัทร์ แจ่มแจ้ง แห่ง DVR Thailand บริษัทตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์กล้องติดรถยนต์ชื่อดัง กล่าวว่าในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจนำเข้าและจำหน่ายกล้องติดรถยนต์เติบโตอย่างต่อเนื่อง วัดจากปริมาณสินค้าที่จำหน่ายออกไป และจากความสนใจของผู้ขับขี่ทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ที่สอบถามเข้ามาเป็นจำนวนมาก แต่กล้องติดรถยนต์ยังถือว่าเป็นสินค้าใหม่ที่ลูกค้ายังลังเล ไม่แน่ใจ และยังไม่มีการทำการตลาดอย่างจริงจัง 

"ผมขอใช้คำว่า "ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา" ความตื่นตัวของลูกค้าเดินเข้ามา แทบทั้งหมดซื้อกล้องติดรถยนต์เพราะเคยประสบอุบัติเหตุบนถนนแบบก้ำกึ่งไม่สามารถชี้ชัดว่าใครผิดใครถูก บางคนโต้เถียงสู้คู่กรณีไม่ได้ บางรายจากฝ่ายถูกกลายเป็นผิด ต้องชดใช้ค่าเสียหายเขา เพียงเพราะไม่มีหลักฐานมายืนยันชัดเจน   

ยิ่งตอนนี้ หลังนโยบายคืนภาษีรถคันแรก ทำให้คนขับหน้าใหม่เพิ่มขึ้นสูง อัตราเสี่ยงก็เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัวเช่นกันถึงแม้เราจะขับขี่อย่างระมัดระวังแล้ว แต่เราไม่สามารถควบคุมรถคันอื่นได้ ดังนั้นการซื้อกล้องติดรถยนตก็เหมือนการซื้อประกันภัยรถยนต์ เป็นการซื้อความเสี่ยง เพราะไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อไหร่ แต่เมื่อเกิด กล้องจะช่วยเราได้ ไม่ต้องเหนื่อยโต้เถียง ตำรวจก็ทำงานง่าย ประกันก็ง่าย  สรุปกันด้วยภาพวีดีโอเลย"

นิภัทร์ บอกว่าในบ้านก็ควรติด ในรถก็ควรติด เพื่อความอุ่นใจ เมื่อเกิดเหตุสามารถกลับมาตรวจสอบภาพจากกล้องได้ เพื่อใช้เป็นหลักฐานต่อไป

เป็นที่ทราบกันว่ากล้องติดรถยนต์จากประเทศไต้หวันและเกาหลีได้รับความนิยมมากกว่า เพราะมีคุณภาพสูงกว่ากล้องจากประเทศจีนที่ไม่มียี่ห้อ ไม่มีการทดสอบคุณภาพ หรือคิวซี โดยปัจจุบันกล้องติดรถยนต์มีจำหน่ายอย่างแพร่หลายทั้งทางออนไลน์ ห้างสรรพสินค้า รวมถึงแหล่งจำหน่ายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดใหญ่อย่างย่านคลองถม บ้านหม้อ ราคามีตั้งแต่ 600 บาทไปจนถึง 7,500 บาทขึ้นไป  

ผู้สันทัดกรณีฝากคำแนะนำไปยังผู้ที่กำลังคิดจะซื้อกล้องติดรถยนต์มาใช้ว่าควรพิจารณาถึง 4 ข้อ นั่นคือราคา คุณภาพสินค้า ความน่าเชื่อถือของร้านค้าที่ขาย และการรับประกัน เนื่องจากกล้องติดรถคืออุปกรณ์ช่วยให้ทุกคนรอดจากสถานการณ์ไม่คาดฝันได้หากเกิดอุบัติเหตุแต่กล้องไม่สามารถบันทึกเหตุการณ์ได้ชัดเจน นั่นหมายถึงไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนเพียงพอ ไม่สามารถใช้งานได้ เท่ากับว่าที่ติดตั้งก็เปล่าประโยชน์

วิธีการเลือกซื้อควรเป็นกล้องที่เป็น FULL HD ความละเอียด 1080P ขึ้นไป ไม่กระตุก ความกว้างของเลนส์ 130 องศาขึ้นไป ควรเห็นภาพได้ชัดทั้งฝ่ายซ้ายและขวา เนื่องจากความยาวของหน้ารถแต่ละคันไม่เหมือนกัน  นอกจากนี้ควรจะมีจอแสดงภาพด้านหลัง เวลาเกิดเหตุจะไม่ต้องเสียเวลาอัพไฟล์ลงคอมพิวเตอร์ สามารถเปิดดูได้ทันที อีกทั้งต้องมีขนาดกะทัดรัด ไม่ใหญ่เทอะทะจนบดบังทัศนวิสัย  

ต่อมาควรเลือกกล้องที่มีอินฟาเรดหรือเลนส์ที่รูรับแสงกว้างสามารถบันทึกภาพในความมืดได้อย่างชัดเจน ขณะที่ฟังก์ชั่นของกล้อง ยุคนี้มีมากมายทั้งจีพีเอสในตัว ระบบจี-เซนเซอร์ หรือระบบบันทึกเก็บไฟล์แยกอัตโนมัติเมื่อกล้องเกิดการสั่นสะเทือน ระบบไฟอินฟราเรด ระบบเสียงเตือนแจ้งการออกนอกเลนส์ หรือระยะใกล้ชนคันหน้า บันทึกเสียงได้ ถ่ายภาพนิ่งได้ ฯลฯ แนะนำว่าเลือกเอาเฉพาะที่สำคัญกับเราจริงๆเท่านั้น

ส่วนเรื่องการรับประกัน ราคาและการรับประกันมักไปในทิศทางเดียวกัน ราคาถูก ประกันมักจะไม่มีคุณภาพไปด้วย อาทิ กล้องติดหน้ารถ จากจีนตามแหล่งสินค้าถูก ราคามักถูกมาก แต่คุณภาพใช้ได้ไม่นานก็เสีย ต้องเปลี่ยน หรือซ่อม

ภัทร อุณหนันน์ เจ้าของร้านจำหน่ายอุปกรณ์กล้องติดรถยนต์อีกราย เล่าว่ากล้องติดรถยนต์จะใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรีรถยนต์ กล้องดีๆแค่สตาร์ทรถก็เปิดโดยอัตโนมัติ การบันทึกภาพเคลื่อนไหวเป็นไฟล์ครั้งละ 3-5 นาที เมื่อดับเครื่องยนต์ก็เซฟไฟล์ให้อัตโนมัติ ข้อควรระวังคือกรณีที่ความจุไฟล์เต็ม ระบบจะทำการอัดซ้ำทับไฟล์เดิมที่ได้บันทึกไว้

"ปัญหาที่เจอบ่อยคือลูกค้ามักจะคาดหวังไว้สูงว่าในเรื่องของความคมชัด  อีกทั้งถ้าดับเครื่องยนต์ กล้องจะยังทำงานอยู่ หวังจะป้องกันขโมย ซึ่งผิดวัตถุประสงค์ กล้องติดรถยนต์ควรใช้งานระหว่างการขับขี่มากกว่า"

วิทวัส จำปา พนักงานบริษัทเอกชน บอกว่ากำลังอยู่ในระหว่างตัดสินใจว่าจะซื้อดีหรือไม่ เขาบอกว่าถ้าเกิดอุบัติเหตุสักครั้งหนึ่ง แล้วกล้องสามารถบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ ทำให้จากที่ตัวเองถูกกล่าวหาว่าผิด กลายเป็นฝ่ายถูกได้ แค่นี้ก็คุ้มค่าแล้ว

"มีเพื่อนใช้กันหลายคน เขาแนะนำให้ซื้อกล้องติดรถราคาประมาณ 7500 บาท แพงหน่อยแต่คุณภาพดี อยากได้แบบใช้งานในความมืดได้ สามารถเห็นป้ายทะเบียนรถคันหน้าได้ชัดๆ ดีกว่าของราคาถูกที่พังง่าย โฟกัสภาพก็ไม่ค่อยจะชัด"

ขณะที่ ชัชวาลย์ เสียงสุทธิวงศ์ บอกว่าควรติด เพราะราคาไม่แพง แต่มีประโยชน์มหาศาล  โดยเฉพาะป้องกันการปฏิบัติหน้าที่อย่างไม่เป็นธรรมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

"ถ้าตำรวจจับเราโดยไม่มีหลักฐาน เราสามารถฟ้องกลับด้วยภาพได้"

ในมุมมองของ พ.ต.อ.วีระวิทย์ วัจนะพุกกะ ผกก.5 บก.จร.มองว่าโดยปกติเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำงานกันอย่างเปิดเผยอยู่แล้ว แต่กล้องติดรถยนต์จะช่วยใหประชาชนสามารถตรวจสอบการทำงานของตำรวจได้อย่างเป็นธรรมมากขึ้น ทำให้ตำรวจต้องระมัดระวังในการทำหน้าที่มากขึ้น ขณะเดียวกันเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันต่างๆบนท้องถนน กล้องที่ติดอยู่ในรถยนต์อาจจะมีส่วนช่วยในการคลี่คลายคดีสำคัญๆได้เหมือนกัน

ขณะที่ อานนท์ โอภาสพิมลธรรม นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย บอกว่าภาพถ่ายจากวีดีโอเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์พยานได้ดีที่สุด สามารถใช้การในชั้นศาลได้

"แม้ว่าตอนนี้การติดกล้องรถยนต์ยังไม่แพร่หลายเท่าไหร่ จึงยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะช่วยลดอุบัติเหตุได้มากน้อยแค่ไหน แต่ผมยืนยันในฐานะนักกฏหมายว่าการมีภาพในกล้องยังดีกว่ามานั่งเถียงว่าใครผิดใครถูก มันพิสูจน์ได้ดีที่สุด ตำรวจก็ทำงานง่าย ประกันก็ทำงานง่าย"