เอกชนวอนยิ่งลักษณ์ลาออกก่อนเกิดกลียุค

ภาคธุรกิจพร้อมใจเรียกร้อง ยิ่งลักษณ์-คณะรัฐมนตรี รักษาการลาออกจากตำแหน่ง ก่อนที่เศรษฐกิจไทยจะล่มสลาย

ท่ามกลางสถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองที่รุนแรงมากขึ้น มีเหตุร้ายรายวันจนทำให้มี|ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ตลอดจนปัญหาการหาเงินมาจ่ายหนี้ค่าข้าวเปลือกให้ชาวนานับล้านคนเป็นเงิน 1.2 แสนล้านบาท แต่รัฐบาลรักษาการ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กลับไม่สามารถจัดการใดๆ ได้เลย

ภาคธุรกิจต่างพร้อมใจออกมาเรียกร้องให้ ยิ่งลักษณ์ และคณะรัฐมนตรี (ครม.) รักษาการลาออกจากตำแหน่ง ก่อนที่เศรษฐกิจไทยจะล่มสลาย

สมมาต ขุนเศษฐ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า เหตุการณ์กราดยิงผู้ชุมนุมที่ จ.ตราด ถือเป็นเหตุการณ์ที่รุนแรงมาก แสดงให้เห็นว่ามีกองกำลังที่ไม่ยอมรับในอำนาจรัฐ ไม่เชื่อว่ารัฐบาลจะจัดการอะไรได้ ดังนั้น ทางออกของปัญหาตอนนี้คือ ยิ่งลักษณ์ รักษาการนายกรัฐมนตรีและ ครม.ทั้งคณะควรจะลาออก เพราะถ้ายังอยู่ต่อไปปัญหาความรุนแรงก็จะยังเกิดขึ้นไม่จบไม่สิ้น และถ้ายิ่งลักษณ์ยังหวงอำนาจอยู่อย่างนี้ก็คงเข้าสู่กลียุค

“ทางออกมันมีอยู่ รัฐบาลควรจะลาออกแล้วเปิดทางให้มีการตั้งรัฐบาลใหม่ ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่มีใครมาเป็นนายกฯ ไม่ต้องห่วงว่ากฎหมายไม่รองรับ เรื่องกฎหมายทุกอย่างมีทางออก ซึ่ง กปปส.ก็บอกว่า ถ้าออกแล้วเขาก็จะกลับบ้าน” สมมาต กล่าว

สำหรับการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน สมมาต ระบุ รัฐบาลควรจะยกเลิกโดยเร็วที่สุด เพราะถ้ายังคง พ.ร.ก.ไว้นาน ก็ยิ่งกระทบกับเศรษฐกิจ เห็นได้จากที่คู่ค้าต่างชาติตอนนี้ต่างก็กังวลกับการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในไทยและยิ่งมีเหตุระเบิดและยิงกันทุกวัน ก็ยิ่งไม่มั่นใจที่จะสั่งสินค้ายาวๆ กับผู้ผลิตในไทย เพราะคู่ค้าต่างชาติกลัวว่าผู้ผลิตในไทยจะส่งสินค้าให้ไม่ได้

“จริงๆ เราก็มีปัญหาการเมืองมาเป็น 10 ปีแล้ว แต่ในอดีตแม้การเมืองจะมีปัญหาแต่เศรษฐกิจก็ยังโต ยกเว้น 2 ปีที่ผ่านมา การเมืองเข้ามายุ่งกับเศรษฐกิจ เช่น นโยบายจำนำข้าว และเพิ่มค่าจ้าง 300 บาท ซึ่งถือเป็นนโยบายที่ผิดพลาดมากและซ้ำเติมภาคธุรกิจ ทำให้ธุรกิจไม่มีแรงมาขับเคลื่อนเศรษฐกิจแทนภาครัฐในช่วงที่การเมืองมีปัญหา”สมมาต กล่าว

บุญชัย โชควัฒนา ประธานกรรมการ บริษัท สหพัฒนพิบูล ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคในเครือสหพัฒน์ กล่าวว่า ยิ่งลักษณ์ควรลาออกจากตำแหน่งรักษาการนายกฯ ได้แล้ว และจะเป็นผลดีต่อชาวนามากกว่า เพราะหากยังฝืนเป็นรัฐบาลรักษาการจะกู้เงินเต็มเม็ดเต็มหน่วยคงเป็นเรื่องยาก โอกาสที่ชาวนาจะรับเงินจากโครงการรับจำนำข้าวมีน้อยมาก และสิ่งที่รัฐบาลทำไปในตอนนี้คือ ยื้อเวลาไปเรื่อยๆ

“เป็นนายกฯ และรัฐบาลรักษาการมีข้อจำกัดในการทำงาน การลาออกน่าจะเป็นผลดีมากกว่ากับทุกฝ่ายโดยเฉพาะชาวนา”บุญชัย กล่าว

ด้าน สวัสดิ์ หอรุ่งเรือง นักธุรกิจและผู้ถือหุ้นบริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน เจ้าของนิคมเหมราช กล่าวว่า การประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และคงไว้ถึงขณะนี้ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของต่างประเทศ เนื่องจากการประกันชีวิตจะไม่ครอบคลุมการเสียชีวิตส่งผลให้นักท่องเที่ยวไม่มาเที่ยวประเทศไทย

สวัสดิ์ กล่าวอีกว่า หากยึดเอาประเทศเป็นที่ตั้งแล้ว ยิ่งลักษณ์ควรลาออกจากตำแหน่งรักษาการนายกฯ เพื่อยุติปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมด

“ผมเป็นห่วง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่มีผลต่อการท่องเที่ยว มีผลต่อระบบสากลเรื่องการประกันชีวิตของนักท่องเที่ยวที่มาไทย ตอนนี้คนยังตายไม่มาก เลยมองไม่ซีเรียสว่าการชุมนุมไม่มีความรุนแรง แต่ถ้าเอาประเทศเป็นที่ตั้ง นายกฯ ควรลาออก”สวัสดิ์ กล่าว

สวัสดิ์ ยอมรับว่า นักลงทุนต่างชาติที่มาลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมต่างรอดูสถานการณ์การเมืองในไทย และผลจากการคณะกรรมการการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ชุดเก่าที่หมดอายุ และเพิ่งได้รับการต่อให้ทำหน้าที่ต่อไป ทำให้การลงทุนของนักลงทุนต่างชาติสะดุดหยุดลงมาหลายเดือนแล้ว โดยเฉพาะความล่าช้าในการโอนชื่อ ขณะที่นักลงทุนเกิดความไม่มั่นใจในการลงทุน