Indian Motorcycleการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ของตำนานสองล้อ

16 กุมภาพันธ์ 2557

“Indian” (อินเดียน) หนึ่งในแบรนด์มอเตอร์ไซค์สัญชาติอเมริกันที่เก่าแก่ระดับตำนาน ซึ่งเป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลาย

เรื่อง...Cap‘P’/ ภาพ...Gareth Harford and Courtesy of Indian Motorcycle

“Indian” (อินเดียน) หนึ่งในแบรนด์มอเตอร์ไซค์สัญชาติอเมริกันที่เก่าแก่ระดับตำนาน ซึ่งเป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายในกลุ่มผู้หลงใหลสองล้อทั่วโลก นับตั้งแต่การเปิดตัวครั้งแรกในปี 1901 ในวันนี้ Indian ได้กลับมาสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ อีกครั้งด้วยการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ “2014 Indian Chief” ที่ได้เผยโฉมให้แฟนๆ ได้ชื่นชมกันไปแล้วในงาน Sturgis Motorcycle Rally ครั้งที่ 73 ที่ผ่านมา ซึ่งเรียกเสียงฮือฮาและกระแสตอบรับจากสาวกสองล้อทั่วโลกอย่างท่วมท้น

แต่ก่อนที่จะไปชื่นชมโฉมใหม่ของ Indian เรามาย้อนเรื่องราวความเป็นมาตั้งแต่เริ่มต้นของแบรนด์ที่ได้ชื่อว่าเป็นตำนานนี้กันดีกว่า

“Indian” เริ่มก่อตั้งและผลิตรถมอเตอร์ไซค์ครั้งแรกในปี 1901 ภายใต้ชื่อบริษัท Hendee Manufacturing และถูกนำออกจำหน่ายอย่างเป็นทางการครั้งแรกในปี 1902 ด้วยรูปลักษณ์แบบเพรียวลมและนวัตกรรมขับเคลื่อนด้วยโซ่ โดยในปี 1906 บริษัทได้ทำการเปิดตัวเครื่องยนต์ V-Twin รุ่นแรกในสายการผลิต และได้รับเลือกให้เข้าประจำการในหน่วยตำรวจมอเตอร์ไซค์หน่วยแรกของกรมตำรวจนิวยอร์กในปีต่อมา

ค.ศ.1908
“Indian” เริ่มมีการวางถังน้ำมันรูปแบบใหม่ “Loop Frame” โดยการติดตั้งเข้ากับเฟรมแนวนอนด้านหน้าของตัวรถ ก่อนที่ผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์รายอื่นๆ จะยึดเป็นแบบอย่างจนกลายเป็นสูตรสำเร็จในการออกแบบตำแหน่งถังน้ำมันของรถมอเตอร์ไซค์ทั่วโลกมาจนถึงปัจจุบัน โดย 5 ปีต่อมาได้เริ่มมีการใช้ระบบแขนแบบ Swingarm และระบบกันสะเทือนหลังแบบ Leaf-Spring กับรถมอเตอร์ไซค์ในสายการผลิตเป็นครั้งแรก

สงครามโลกครั้งที่ 1
ถือเป็นยุคเฟื่องฟูของ Indian เลยก็ว่าได้ เมื่อบริษัทต้องจัดส่งรถสำหรับใช้ทางการทหาร ให้กับกองทัพสหรัฐฯ พร้อมกับการเปิดตัว “Powerplus” เครื่องยนต์ใหม่แบบ Side-Valve ขนาด 61 ลบ.นิ้ว โดยในยุค 10s นี้โรงงานผลิต Indian ได้กลายเป็นโรงงานผลิต มอเตอร์ไซค์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก! นอกจากนั้นนักบิด Indian ยังกวาดทุกสถิติความเร็ว จากรายการแข่งขันชื่อดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Isle of Man Mountain Course Race หรือ English 1000-Mile Reliability Trial และอีกหลายสนามแข่งทั่วอเมริกา

ค.ศ.1920
Indian ได้ทำการเปิดตัว Indian Scout โมเดลยอดฮิตของแบรนด์

สงครามโลกครั้งที่ 2
“Indian” ยังคงมุ่งเน้นการจัดเตรียมรถให้กับกระทรวงสงครามสหรัฐฯ ควบคู่ไปกับการจัดเตรียมมอเตอร์ไซค์ Indian Chief พร้อม Sidecar ตามคำสั่งซื้อของรัฐบาล ฝรั่งเศส และในปี 1940 จึงได้เริ่มบุกเบิกการใช้ระบบกันสะเทือนหลังแบบ “Plunger” (ต้นแบบโช้คในยุคปัจจุบัน) จนกระทั่งในปี 1953 Indian Motorcycle Company ประสบปัญหาอย่างหนักจนต้องยุติการผลิตลง

Indian Motorcycleการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ของตำนานสองล้อ

ค.ศ.1967
ชายผู้เป็นตำนานอย่าง Herbert James “Burt” Munro นักแข่งมอเตอร์ไซค์
ชาวนิวซีแลนด์ได้นำเอา Indian Scout ปี 1920 ที่เขาปรับแต่งใหม่ด้วยตนเองเข้าแข่งขันในงาน Speed Week ที่เมืองซอลท์เลค รัฐยูทาห์ จนสร้างสถิติความเร็วรุ่นความจุกระบอกสูบไม่เกิน 1,000 ซีซี. ซึ่งหลังจากนั้น 40 ปีก็ยังไม่มีใครสามารถทำลายสถิติของเขาลงได้

ค.ศ.1999
Indian Motorcycle Company เริ่มต้นการผลิตรถมอเตอร์ไซค์ Indian ขึ้นอีกครั้งและปิดตัวลงในปี 2003

ค.ศ.2011
Polaris Industries บริษัทผู้ผลิตและพัฒนา Snowmobiles และ ATV รายใหญ่ในสหรัฐอเมริกาเข้าซื้อกิจการ ซึ่ง Polaris นับเป็นบริษัทที่มีเสถียรภาพมั่นคงอยู่แล้ว จากรถมอเตอร์ไซค์ Victory ทั้งนี้ Indian จะดำเนินงานอย่างเป็นเอกเทศ โดยจะผลิตรถขึ้นภายใต้ความเฉียบแหลมทางวิศวกรรมและนวัตกรรมทางเทคโนโลยีของ Polaris ขณะเดียวกันก็ยังคงความเป็นแบรนด์ระดับสูงและการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ รวมไปถึงความภาคภูมิใจในความร่ำรวยของมรดกทางวัฒนธรรมของอเมริกา พร้อมกับการเปิดตัวขุมพลังใหม่ “Thunder Stroke 111” ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นการปลุกชีพ
ให้กับแบรนด์ดังระดับตำนานอีกครั้ง

2014 INDIAN CHIEF ทั้งสามรุ่นนำทับสู่ประเทศไทย

INDIAN CHIEF CLASSIC
สุดยอดครุยเซอร์ที่ทรงพลังและสมบูรณ์แบบที่สุด จากการผสมผสานเอกลักษณ์ของ ‘Indian’ ในอดีตเข้ากับความล้ำหน้าทางด้านวิศวกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัยไว้ได้อย่างลงตัว โดดเด่นด้วยบังโคลนแบบคลุมล้อ เบาะหนังแท้ แผงคอนโซลขนาดใหญ่ แบบติดตั้งเข้ากับตัวถังน้ำมันเชื้อเพลิงทรงหยดน้ำ (Tear-Drop) และสัญลักษณ์เครื่องหมายการค้ารูป “หัวหน้าเผ่า” (War Bonnet) บนบังโคลนหน้าของตัวรถอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ Indian นอกจากนี้ Indian Chief Classic รุ่นปี 2014 ยังมาพร้อมกับชุดอุปกรณ์มาตรฐานคุณภาพสูง อาทิ ระบบการสตาร์ทเครื่องแบบไม่ใช้กุญแจ, ระบบเบรค ABS, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบ Cruise Control, คันเร่งไฟฟ้า, ท่อไอเสีย True Dual, ฝาครอบคาลิปเปอร์และอีกหลายรายการ

Indian Motorcycleการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ของตำนานสองล้อ

INDIAN CHIEF VINTAGE
เป็นรถมอเตอร์ไซค์แบบ Soft Bagger ที่นำเอาสไตล์การออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ของ ‘Indian’ มาผสมผสานเข้ากับอุปกรณ์เสริมหล่อที่ถูกสร้างขึ้นด้วยความใส่ใจและประณีตในทุกรายละเอียด มาพร้อมกับเบาะหนังและกระเป๋าหนังด้านข้างสำหรับใส่สัมภาระที่สามารถถอดประกอบได้อย่างง่ายดาย ปลายบังโคลนแต่งโครเมียม ทั้งนี้ Indian Chief Vintage ยังมาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานที่ติดตั้งมาจากโรงงานเช่นเดียวกับ Indian Chief Classic ด้วยดีไซน์อันโดดเด่นที่มีเฉพาะใน ‘Indian’ เท่านั้น อาทิ บังโคลนแบบคลุมล้อ, ล้อซี่ลวด, ยางขอบขาว, แผงคอนโซลแบบติดตั้งเข้ากับตัวถังน้ำมันซึ่งมาในชุดสีโครเมียมทั้งหมด ให้ภาพลักษณ์ของความงามแบบคลาสสิค

Indian Motorcycleการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ของตำนานสองล้อ

INDIAN CHIEFTAIN
สายพันธุ์ใหม่ในสายการผลิตของ ‘Indian’ ซึ่งยังคงรูปแบบความ เป็นเอกลักษณ์ของ Indian Chief ไว้ แต่พัฒนาเพิ่มเติมเพื่อให้ทันสมัยและสะดวกสบายยิ่งขึ้น พร้อมด้วยลูกเล่นใหม่ๆ โดยในส่วนของอุปกรณ์มาตรฐาน Indian Chieftain ก็มาพร้อมกระเป๋าสัมภาระแบบ Hard Baggers ที่สามารถล็อคเปิด-ปิดได้ด้วยรีโมทคอนโทรล รวมไปถึงเครื่องเสียงคุณภาพเยี่ยมพร้อมระบบบลูทูธไว้รองรับการเชื่อมต่อกับ สมาร์ทโฟนอีกด้วย ส่วนเครื่องยนต์ของ Indian Chief รุ่นปี 2014 ได้มีการใช้ขุมพลังใหม่ ThunderStroke 111 ที่มีขนาดความจุ 111 ลบ.นิ้ว (1,811 ซีซี.) และให้แรงบิดที่ 119 ฟุต-ปอนด์ ซึ่งได้รับการออกแบบและผลิตขึ้นภายใต้นวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทั้งยังเสริมความมั่นใจด้านประสิทธิภาพด้วยการทดสอบการวิ่งรวมระยะทางกว่า 2 ล้านไมล์ ทั้งบนถนนจริงและในห้องทดสอบ ด้วยประสบการณ์ทางด้านวิศวกรรมอันเหนือชั้นกว่า 60 ปี ของ Polaris Industries

Indian Motorcycleการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ของตำนานสองล้อ