posttoday

ท่องเที่ยวลดเวลาจ้างงานฝ่าวิกฤตการเมืองวุ่น

10 กุมภาพันธ์ 2557

ยามมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมามาก ธุรกิจท่องเที่ยวปวดหัวเรื่องหาบุคลากรมารองรับงาน พอธุรกิจท่องเที่ยวมีปัญหา เจอวิกฤตการเมืองกระทบ ปัญหาที่ต้องเจอก็สลับกัน คือ จะทำอย่างไรในการบริหารทรัพยากรบุคคล เมื่อต้องแบกรับภาระต้นทุนค่าบุคลากรเท่าเดิม แต่รายได้ลดลงไปมาก

ยามมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมามาก ธุรกิจท่องเที่ยวปวดหัวเรื่องหาบุคลากรมารองรับงาน พอธุรกิจท่องเที่ยวมีปัญหา เจอวิกฤตการเมืองกระทบ ปัญหาที่ต้องเจอก็สลับกัน คือ จะทำอย่างไรในการบริหารทรัพยากรบุคคล เมื่อต้องแบกรับภาระต้นทุนค่าบุคลากรเท่าเดิม แต่รายได้ลดลงไปมาก

วิชิต ประกอบโกศล ประธาน บริษัท ซีซีที กรุ๊ป บริษัททัวร์จีนรายใหญ่ในไทย เปิดเผยว่า หากการเมืองนิ่งขึ้น นักท่องเที่ยวก็มีแนวโน้มทยอยกลับมาสูงในช่วงเทศกาลสงกรานต์เดือน เม.ย. ดังนั้นบริษัททัวร์ก็คงไม่ใช้วิธีการลดบุคลากรในช่วงนี้ เพราะยังมั่นใจว่าประคองธุรกิจไปได้หากมีบุคลากรเท่าเดิม แต่ถ้า 3-5 เดือนข้างหน้าการท่องเที่ยวยังไม่ดีขึ้น บริษัททัวร์บางรายอาจจะต้องปรับกลยุทธ์บริหารบุคลากรเพื่อลดต้นทุนบ้าง

ทั้งนี้ เช่น ให้มาทำงานครึ่งวัน หรือทำงานวันเว้นวัน แล้วเจรจาลดเงินเดือนลง จะได้ไม่ต้องให้พนักงานคนไหนออกไป หรือบางรายอาจต้องคัดพนักงานบางคนออกไป เพื่อที่จะยังจ่ายเงินเดือนกับคนอื่นได้เต็มสัดส่วน ส่วนเวลานี้ยืนยันว่ายังไม่มีทัวร์จีนที่วิกฤตถึงขั้นต้องทำตามขั้นตอนที่ว่ามาแน่นอน

แหล่งข่าวจากเครือโรงแรมระดับนานาชาติรายหนึ่ง เปิดเผยว่า เครือโรงแรมระดับนานาชาติจะไม่ประสบปัญหาด้านการบริหารจัดการบุคลากรมากในช่วงมีวิกฤตการเมือง เพราะมีจุดแข็งเรื่องเครือข่ายสาขาทั้งในไทยและทั่วโลก เมื่อโรงแรมพื้นที่ใดมีปัญหา ก็โยกย้ายพนักงานสาขาที่คนใช้บริการน้อยไปช่วยงานสาขาที่มีงานมากได้ ถ้าสถานการณ์ปกติจึงโยกย้ายคนกลับมา ขณะที่โรงแรมที่มีเจ้าของคนไทยและไม่มีเครือข่าย จะประสบปัญหามากกว่า เพราะโยกย้ายไปพื้นที่อื่นไม่ได้

สมชัย รัตนโอภาส กรรมการผู้จัดการ เครือโรงแรมเอวัน กล่าวว่า ได้เลื่อนเวลาปรับขึ้นเงินเดือนพนักงานออกไป เพื่อรอดูสถานการณ์ท่องเที่ยวว่าจะได้รับผลกระทบการเมืองอีกยาวแค่ไหน หลายโรงแรมก็ปฏิบัติเหมือนกัน เนื่องจากเงินเดือนเป็นต้นทุนระยะยาว หากปรับขึ้นแล้วจะเป็นต้นทุนที่เพิ่มขึ้นระยะยาว ส่วนกลยุทธ์อื่นที่ทุกโรงแรมใช้กันอยู่แล้วคือ ให้พนักงานสลับกันใช้วันหยุดที่ยังเหลืออยู่ในช่วงนี้ ซึ่งมีงานน้อย

ม.ล.สุรวุฒิ ทองแถม รองประธานอาวุโส ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ ผู้บริหารโรงแรมอมารี โอโซ และชามา กล่าวว่า เครือออนิกซ์ยังบริหารทรัพยากรบุคคลตามปกติ ไม่มีการลดพนักงาน เพราะผลกระทบจากเหตุการณ์การเมืองต่อเครือโรงแรมมีน้อยมาก มีเฉพาะโรงแรมใจกลางเมือง ส่วนโรงแรมที่อยู่ชานเมืองออกไปไม่ได้มีปัญหาอะไร มิหนำซ้ำอัตราเข้าพักยังเพิ่มขึ้นด้วย เช่น โรงแรมอมารี ดอนเมือง เพิ่ม 40% ขณะที่พัทยาก็ดีขึ้นต่อเนื่อง ส่วนย่านสุขุมวิทลดลงเพียง 12%

บุณฑริก กุศลวิทย์ กรรมการผู้จัดการ โรงแรมเดอะซิตี้ ศรีราชา และนายกสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันออก กล่าวว่า ขณะนี้โรงแรมในพัทยายังบริหารทรัพยากรบุคคลกันเป็นปกติ เพราะโรงแรมส่วนใหญ่มีอัตราเข้าพักอยู่ในระดับ 55-60% ซึ่งยังเป็นระดับที่น่าพอใจอยู่ เพราะยังได้ผลดีต่อเนื่องมาจากช่วงตรุษจีนที่คนมาพักผ่อน แต่หลังจากกลางเดือนนี้ไปแล้วคงต้องมาจับตาดูอีกครั้งว่าอัตราเข้าพักจะเป็นอย่างไร เพราะยอดจองล่วงหน้ายังเงียบอยู่ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นอาจจะมีบางโรงแรมต้องปรับกลยุทธ์การบริหารทรัพยากรบุคคลบ้าง

“การให้พนักงานสลับกันใช้วันหยุดในช่วงนี้ถือเป็นเรื่องปกติ เพราะงานไม่มาก อย่างไรก็ตามถ้าเป็นช่วงที่สถานการณ์ไม่ปกติ อย่างมากที่สุดโรงแรมคงไม่รับคนเพิ่ม กรณีมีคนลาออกไป แต่เชื่อว่าโรงแรมจะไม่ปรับลดบุคลากร เพราะระยะยาวพัทยาก็ยังเป็นจุดหมายปลายทางหลักที่นักท่องเที่ยวต่างชาติต้องการมา ยังมีปัญหาเรื่องบุคลากรอาจไม่พอเพียงอยู่ หากลดบุคลากรแล้ว เมื่อสถานการณ์กลับมาปกติ โรงแรมสามารถกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวกลับมาใช้บริการได้ภายใน 12 เดือน การเตรียมพร้อมบุคลากรรองรับอาจจะไม่ทันการ” บุณฑริก กล่าว

พอล สตีเวนส์ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการแบรนด์โนโวเทล เมอร์เคียว และไอบิส ประจำประเทศไทย เวียดนาม กัมพูชา ลาว และฟิลิปปินส์ เครือแอคคอร์ กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมาได้ให้พนักงานในโรงแรมที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมบางส่วนใช้ช่วงนี้เข้าอบรมเพิ่มเติมทักษะ และมอบหมายพนักงานบางแผนกไปช่วยงานโรงแรมอื่นในเครือที่อยู่นอกพื้นที่ชุมนุม เนื่องจากโรงแรมเหล่านั้นยังมีลูกค้าใช้บริการตามปกติ ขณะเดียวกันได้จัดหาสถานที่พักให้แก่พนักงานที่เดินทางมาทำงานลำบากอีกด้วย

ถือเป็นโชคดีที่รอบนี้ยังไม่เห็นการเลิกจ้างในภาคท่องเที่ยวรับผลกระทบการเมือง แต่ก็ยังไว้ใจไม่ได้และต้องจับตากันต่อไป