posttoday

ลั่นไม่เลิกปราบสินค้าละเมิดกึ๋น

10 พฤษภาคม 2553

พาณิชย์ไม่ท้อมะกันขึ้นบัญชีพีดับเบิลยูแอล เดินหน้าลุยปราบสินค้าละเมิดต่อ เตรียมเชิญเจ้าของพื้นที่ละเมิดสีแดงรับทราบนโยบาย

พาณิชย์ไม่ท้อมะกันขึ้นบัญชีพีดับเบิลยูแอล เดินหน้าลุยปราบสินค้าละเมิดต่อ เตรียมเชิญเจ้าของพื้นที่ละเมิดสีแดงรับทราบนโยบาย

นางปัจฉิมา ธนสันติ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า แม้สหรัฐจะยังคงอันดับไทยเป็นประเทศที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษ (พีดับเบิลยูแอล) แต่นายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ ยังคงมอบนโยบายให้กรมเดินหน้าการปราบปรามการละเมิดอย่างเข้มข้นต่อไป และ รมช.พาณิชย์ จะเป็นผู้นำคณะลงพื้นที่ในการลงพื้นที่เป้าหมายการละเมิดสูงสุด (พื้นที่สีแดง)ด้วยตนเอง

ทั้งนี้ในสัปดาห์นี้กรมจะเชิญประชุมผู้ประกอบการเจ้าของลิขสิทธิ์และเจ้าของพื้นที่อาคารใน 8 พื้นที่ ที่มีการละเมิดมาก อาทิ มาบุญครอง พันธุ์ทิพย์พลาซ่า คลองถม บ้านหม้อ สีลม สุขุมวิท ฯลฯ รวมถึงผู้ให้บริการระบบอินเทอร์เน็ตและเคเบิลทีวี มารับทราบนโยบายการปราบปรามว่า จะมีการปราบปรามอย่างจริงจังและบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด

อย่างไรก็ตาม หลังจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองคลี่คลายลง ก็จะมีการจัดชุดเฉพาะกิจ ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเอกชนเจ้าของสิทธิในการลงพื้นที่ตั้งแต่เดือน พ.ค.นี้ เป็นต้นไป และขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สืบและขึ้นบัญชีกลุ่มผู้มีอิทธิพลในพื้นที่สีแดง เพื่อเฝ้าระวังและเข้าปราบปรามอย่างเต็มที่

“กำลังให้เอกชนเจ้าของสิทธิรวบรวมเว็บไซต์และเคเบิลทีวี ที่สงสัยว่ามีการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญามายังภาครัฐ หลังรับทราบว่าเป็นช่องทางการละเมิดที่เพิ่มขึ้น และได้รับแจ้งเบาะแสการละเมิดในหลายจุดทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ล่าสุดเมื่อวันที่ 5 พ.ค. ได้เข้าจับกุมการละเมิดในกลุ่มเครื่องหนังและนาฬิกา จำนวน 7,098 ชิ้น เป็นมูลค่าถึง 20 ล้านบาท ที่วางจำหน่ายตามริมหาดเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี” นางปัจฉิมา กล่าว

สำหรับสถิติการจับกุมระหว่างเดือน ม.ค.-มี.ค. 2553 จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุมีการจับกุม 891 คดี ยึดของกลาง 947,193 ชิ้น เทียบช่วงเดียวกันปี 2552 การจับกุมลดลง 56.15% ยึดของกลางลดลง 31.51% กรมศุลกากรระบุมีการตรวจยึดสินค้าละเมิด 200 คดี ยึดของกลาง 44,361 ชิ้น โดยจับกุมเพิ่ม 29% แต่ยึดของกลางลดลง 4.5% ดีเอสไอ จับกุม 6 คดี ยึดของกลาง 41,434 ชิ้น การจับกุมเพิ่ม 500% ยึดของกลางเพิ่มขึ้น 3,036.5% หรือ 30 เท่า