ห่วงการเมืองลากยาวฉุดส่งออกต่ำกว่า3.8%
หอการค้าไทย ชี้ ผู้ส่งออกเอสเอ็มอีถูกกระทบจากการเมืองแล้ว คาดทั้งปีส่งออกโต 3.8% แต่อาจต่ำกว่านี้หากยืดเยื้อ
หอการค้าไทย ชี้ ผู้ส่งออกเอสเอ็มอีถูกกระทบจากการเมืองแล้ว คาดทั้งปีส่งออกโต 3.8% แต่อาจต่ำกว่านี้หากยืดเยื้อ
นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจความพร้อมและความเข้าใจของผู้ส่งออกไทยต่อการแข่งขันในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ปี 2556 จาก 13 ประเภทธุรกิจ พบว่า ขณะนี้ธุรกิจในกลุ่มเอสเอ็มอี เริ่มได้รับผลกระทบจากปัญหาทางการเมืองแล้ว 29.91% เนื่องจากลูกค้าต่างชาติลดคำสั่งซื้อ หันไปซื้อกับประเทศคู่แข่งแทน เพราะกังวลว่าจะส่งสินค้าให้ไม่ได้ หรือไม่ทันกำหนด และมีปัญหาในขั้นตอนการดำเนินการทางเอกสารกับหน่วยงานราชการ
ทั้งนี้ ประเมินภาพรวมการส่งออกปีนี้จะขยายตัว 3.8% แต่หากสถานการณ์ยืดเยื้อเข้าสู่ไตรมาสที่ 2 จะกระทบต่อการส่งออกมากกว่านี้ และต้องทบทวนตัวเลขอีกครั้ง ส่วนเศรษฐกิจไทยในปีนี้ยังคาดว่าจะขยายตัวได้ 3% แต่หากยืดเยื้อถึงไตรมาสที่ 2 อาจจะต่ำกว่าที่คาดการณ์ได้เช่นกัน
นายอัทธ์ กล่าวว่า จากสถานการณ์ทางการเมืองที่ไทยมีปัญหามากกว่าประเทศอื่น จะทำให้ศักยภาพในการแข่งขันของเอสเอ็มอีไทยเทียบกับประเทศในอาเซียนลดลงมาอยู่ในอันดับที่ 5 จากอันดับที่ 3 ในปี 2556 โดยอันดับ 1 คือ สิงคโปร์ อันดับ 2 มาเลเซีย อันดับ 3 เวียดนาม และ 4 อินโดนีเซีย
ขณะที่ ผลสำรวจความพร้อมในการออกไปลงทุนในประเทศอาเซียนของผู้ประกอบการไทย ในปี 2556 ที่ผ่านมา พบว่า ผู้ประกอบการรายใหญ่ มีความพร้อมเพิ่มมากที่สุดถึง 97.28% ขณะที่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีส่วนใหญ่ 45.89% ยังไม่มีความพร้อม โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกรรม ทั้งปศุสัตว์ พืช และประมง เนื่องจากยังขาดความรู้ความเข้าใจด้านกฎระเบียบ และการใช้ประโยชน์ในแต่ละประเทศ
"รัฐบาลใหม่ที่จะเข้ามาบริหารประเทศหลังจากนี้ต้องให้ความสำคัญกับการสร้างความเข้าใจกับผู้ประกอบการ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันหลังเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยเฉพาะองค์ความรู้ด้านข้อกฎหมายในการเข้าไปลงทุนหรือทำธุรกิจยังไม่มีความชัดเจน รวมถึงอุปสรรคด้านภาษาและความเข้าใจวัฒนธรรมของประเทศในอาเซียนดีพอ ซึ่งที่ผ่านมาภาครัฐยังไม่ประชาสัมพันธ์และทำความเข้าใจในเรื่องนี้ที่ชัดเจน" นายอัทธ์ กล่าว