posttoday

ชงรัฐปั้นอู่ตะเภาเป็นสนามบินนานาชาติ

27 มกราคม 2557

ทีเอชเอชงรัฐปั้นอู่ตะเภาเป็นสนามบินนานาชาติ รับการเมืองกรุงเทพดุ สนามบินแออัด เผยพัทยาอัตราเข้าพักฮวบ 25%

ทีเอชเอชงรัฐปั้นอู่ตะเภาเป็นสนามบินนานาชาติ รับการเมืองกรุงเทพดุ สนามบินแออัด เผยพัทยาอัตราเข้าพักฮวบ 25%

น.ส.บุณฑริก กุศลวิทย์ นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) ภาคตะวันออก เปิดเผยว่า ทีเอชเอมีแนวคิดเสนอให้รัฐบาลใหม่ลงทุนขยายพื้นที่สนามบินอู่ตะเภา เพื่อยกระดับให้เป็นท่าอากาศยานนานาชาติ รองรับการเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติบินตรงสู่พัทยา โดยไม่ผ่านท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อกระจายความเสี่ยงกรณีกรุงเทพฯ มีความวุ่นวายทางการเมือง นักท่องเที่ยวยังสามารถเดินทางมาประเทศไทย รวมถึงลดความแออัดของผู้โดยสารที่มาใช้บริการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวสามารถใช้สนามบินอู่ตะเภาเป็นจุดเชื่อมต่อไปยังภูมิภาคอื่นของประเทศไทย ช่วยลดกระทบด้านการเดินทาง โดยเฉพาะเมืองพัทยา ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกให้ความนิยมเดินทางมา แต่ทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมือง พัทยาและจังหวัดใกล้เคียงกลับได้รับผลกระทบเท่ากับกรุงเทพฯ

อย่างไรก็ดี จากปัญหาการเมืองที่ยืดเยื้อนับจากปลายปี 2556 การประกาศพ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เมื่อวันที่ 16 ม.ค. ที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่ออัตราการเข้าพักโรงแรมพัทยา ลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าตลอดเดือนม.ค.นี้ อัตราการเข้าพักจะเฉลี่ยเพียง 60% ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 20-25% เฉลี่ย 80% เนื่องจากเป็นฤดูกาลท่องเที่ยว(ไฮซีซั่น)

นอกจากนี้ หากสถานการณ์การเมืองไม่มีท่าทียุติลงภายในเดือนก.พ.นี้ จะกระทบต่อภาพรวมการท่องเที่ยวพัทยา ส่งผลให้อัตราการเข้าพักไตรมาสแรกปีนี้ลดลง 15% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

"ผู้ประกอบการท่องเที่ยวพัทยาและจังหวัดใกล้เคียงได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เพราะไตรมาสแรกเป็นช่วงที่การท่องเที่ยวพักสูงสุด โดยเฉพาะเดือนม.ค.ปีนี้ มีเทศกาลตรุษจีน นักท่องเที่ยวจีนแห่เดินทางมาจำนวนมาก แต่ปีนี้ทยอยยกเลิกเกือบหมดตลาด ขณะที่ตลาดรัสเซียได้ยกเลิกการเดินทางเช่นเดียวกัน" น.ส.บุณฑริก กล่าว

อย่างไรก็ตาม หากผลักดันให้สนามบินอู่ตะเภาเป็นท่าอากาศยานนานาชาติเป็นผลสำเร็จ เชื่อว่าในอนาคตสนามบินดังกล่าว จะเป็นศูนย์กลาง(ฮับ) ทางการบินในภาคตะวันออก ช่วยกระจายนักท่องเที่ยวต่างชาติไปยังจังหวัดและภูมิภาคอื่นได้

น.ส.บุณฑริก กล่าวว่า สำหรับแผนฟื้นฟูการเดินทางท่องเที่ยวระยะเร่งด่วน ได้ร่วมกับสมาชิกกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวตลาดในประเทศ โดยเจาะกลุ่มลูกค้าจัดประชุมสัมมนา(ไมซ์) กลุ่มอุตสาหกรรมมาจัดกิจกรรมการประชุมที่พัทยา ทดแทนตลาดต่างประเทศที่เดินทางลดลง

นอกจากนี้ ได้เจรจากับบริษัททัวร์ต่างประเทศ แนะนำแพ็กเกจทัวร์ประเทศไทยเส้นทางพัทยา พร้อมให้คำแนะนำว่าพัทยาสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ตามปกติ โดยมองว่าทันทีที่สถานการณ์การเมืองไทยกลับสู่ภาวะปกติ การท่องเที่ยวเมืองพัทยา นักท่องเที่ยวจะเติบโตประมาณ 10% เทียบกับปีที่ผ่านมา จำนวน 10 ล้านคน ซึ่งในปีนี้มีสินค้าทางการท่องเที่ยว สวนน้ำและสวนสนุกเปิดให้บริการใหม่อีก 3 แห่ง โรงแรม เป็นปัจจัยบวกที่ทำให้พัทยาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่จูงใจให้นักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมาอย่างรวดเร็ว