posttoday

คนไทยแห่ซื้อของผ่านออนไลน์พุ่ง

22 มกราคม 2557

ผู้บริโภคแห่ซื้อขายของออนไลน์หลังเจอชัตดาวน์ ส.อ.ท.ชี้คู่ค้าต่างชาติชะลอสั่งซื้อ

ผู้บริโภคแห่ซื้อขายของออนไลน์หลังเจอชัตดาวน์ ส.อ.ท.ชี้คู่ค้าต่างชาติชะลอสั่งซื้อ

นายจิรบูลย์ วิทยสิงห์ รองประธานกลุ่มอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และประธานกิตติมศักดิ์สมาคมของขวัญของชำร่วยไทยและของตกแต่งบ้าน เปิดเผยว่า ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ชุมนุมปิดกรุงเทพฯ หรือชัตดาวน์ มีการปิดการจราจรหลายจุด ทำให้การเดินทางไม่สะดวก พบว่าผู้บริโภคได้เปลี่ยนพฤติกรรมมาซื้อขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงมาก เพราะเป็นช่องทางที่สะดวก และยิ่งมีระบบ 3จี ให้ช่องทางออนไลน์มีความคล่องตัวและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ตรง ยิ่งส่งผลให้ผู้บริโภคซื้อขาย-ผ่านออนไลน์อย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม การซื้อขายสินค้าผ่านออนไลน์เป็นเทรนด์ของทั่วโลกโดยเฉพาะในต่างประเทศ การซื้อขายผ่านออนไลน์เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ขณะที่ไทยเองก็เพิ่มขึ้นมาก เห็นได้จากเว็บไซต์ซื้อขายสินค้าใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นมากมาย รวมถึงโซเชียลมีเดียต่างๆ เช่น เฟซบุ๊ก ไลน์ ยูทูบ โดยภาครัฐเข้ามาดูแลการซื้อขายผ่านออนไลน์อย่างจริงจัง ทำให้ผู้ซื้อขายมีความมั่นใจมากขึ้น

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการโดยเฉพาะเอสเอ็มอีควรปรับตัวให้สอดคล้องกับเทรนด์ที่เกิดขึ้น ขณะที่ภาครัฐก็ต้องส่งเสริมให้เอสเอ็มอีไทยใช้ระบบซื้อขายผ่านระบบออนไลน์มากขึ้น เช่น การจ้างนักกลยุทธ์ที่เป็นมืออาชีพมาให้ความรู้ผู้ประกอบการ เพื่อให้ทันการเปลี่ยนแปลงทั่วโลก รวมทั้งเป็นการเพิ่มช่องทางจำหน่ายที่มีประสิทธิภาพ และลดต้นทุนให้ผู้ประกอบการด้วย

นายจิรบูลย์ กล่าวว่า สำหรับผลกระทบจากความวุ่นวายทางการเมืองต่อกลุ่มผู้ประกอบการในสมาคมของขวัญฯ จากการสอบถามพบว่ามีปัญหาที่คู่ค้าต่างประเทศขาดความเชื่อมั่นต่อผู้ผลิตในไทย โดยมีการเริ่มชะลอสั่งซื้อสินค้าไทย ซึ่งทางผู้ประกอบการไทยก็ได้สอบถามคำสั่งซื้อไปหลายครั้ง แต่คู่ค้าก็ไม่มีการตอบรับกลับมา ซึ่งขณะนี้ทางผู้ประกอบการกลุ่มของขวัญฯ เกรงว่าคู่ค้าจะหันไปซื้อสินค้าจากประเทศคู่แข่งแทน โดยเฉพาะในประเทศเวียดนาม อินโดนีเซีย ซึ่งปกติจะหาช่องทางแย่งลูกค้าจากไทยอยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ก็ยังมีปัจจัยบวกต่อกลุ่มสินค้าของขวัญฯ อยู่คือเงินบาทที่อ่อนค่าลงเคลื่อนไหวอยู่ในระดับ 32-33 บาท เนื่องจากสินค้ากลุ่มนี้ส่วนใหญ่เป็นงานฝีมือ และงานหัตถกรรมที่ใช้วัสดุในประเทศเป็นหลักประมาณ 70% ไม่ได้นำเข้า ขายออกไปก็ได้ราคาดี ขณะที่ลูกค้าต่างชาติส่วนใหญ่ก็ชอบงานสินค้าของไทย เพราะมีความประณีตและมีคุณภาพสูง ดังนั้นตอนนี้จึงต้องเร่งดึงความเชื่อมั่นคู่ค้าต่างชาติกลับมาเท่านั้น