เคเอฟซีเจาะตลาดบ้านจัดสรรขยายสาขาไดร์ฟทรู

เคเอฟซี  รุกเจาะโครงการหมู่บ้านจัดสรร หวังขยายสาขารูปแบบไดร์ฟทรู  ชี้ยอดขายสูงกว่าในห้าง 30%  ปีหน้าทุ่มงบลงทุน  2.2 พันล้านบาท

นางแววคนีย์  อัสโสรัตน์กุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ยัม  เรสเทอรองตส์  อินเตอร์เนชั่นแนล(ประเทศไทย) ผู้บริหารธุรกิจร้านอาหารบริการด่วนภายใต้แบรนด์เคเอฟซี  เปิดเผยว่าขณะนี้บริษัทฯอยู่ระหว่างการเจรจากับโครงการหมู่บ้านจัดสรร หลายแห่งในกทม. และปริมณฑล  รวมไปถึงการหาพื้นที่ในจังหวัดหัวเมืองรองเพื่อขยายช่องทางสาขาไดร์ฟทรู สแตนด์ อะโลน เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น  เนื่องจากปัจจุบันหมู่บ้าน หลายแห่ง ถือเป็นแหล่งชุมชนขนาดใหญ่ ขณะพื้นที่ขายในศูนย์การค้านั้นมีการแข่งขันสูง เพื่อแย่งชิงพื้นที่ขาย

“ขณะนี้เราพยายามพิจารณาพื้นที่ อาจจะเป็นภายในหมู่บ้าน หรือแหล่งชุมชุนเพื่อก่อสร้างสาขารูปแบบสแตนด์อะโลน โดยสาขาต้องมีขนาดพื้นที่ ใช้สอยไม่ต่ำกว่า 400 ตารางเมตร ใช้เงินลงทุนเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท  ซึ่งจะใช้สัญญาเช่าในระยะยาว  เบื้องต้นจะมีการลงทุนมากกว่าแต่ ใช้เวลา 3-4 ปี จึงจะคืนทุน เพราะสาขาดังกล่าวสามารถขาย ได้ตลอดทั้งวัน  ขณะที่สาขาในห้างนั้นถูกจำกัดด้วยเวลาเปิด-ปิดของห้าง  และการเปิดให้บริการรูปแบบไดร์ฟทรู นั้นจะทำให้เคเอฟซี สามารถรุกตลาดเมนูอาหารเช้าได้อีกด้วย ” นางแววคนีย์กล่าว         

สำหรับเคเอฟซี ในต่างประเทศ รูปแบบไดร์ฟทรู ได้รับความนิยม โดยเปิดให้บริการ มากกว่าครึ่งหนึ่งของสาขาปกติ  คาดว่าในเมืองไทยจะได้รับความนิยมมากขึ้นเหมือนในหลายประเทศทั่วโลก  หลังจากทดลองเปิดให้บริการ ในไทยมาแล้ว  4 สาขา โดยเปิดให้บริการภายในปั๊มน้ำมัน   ซึ่งเมื่อเดือน พ.ย. ได้เริ่มนำร่องในการเปิดสาขา ไดร์ฟ ทรู สแตนด์อะโลน บน ถ.ศรีนครินทร์  เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง สามารถสร้างยอดขายได้สูงกว่า สาขาที่อยู่ภายในห้าง  30%

นางแววคนีย์กล่าวอีกว่า ในปี 2557 บริษัทฯจะใช้งบลงทุนรวม 2,200  ล้านบาท แบ่งเป็นงบการตลาด 650 ล้านบาท  โดยงบส่วนใหญ่จะใช้ไปในการขยายสาขา ปรับปรุงร้านเก่าและใหม่  ซึ่งมีแผนจะเปิดสาขาใหม่ 45 สาขา แบ่งเป็นสาขาในรูปแบบไดร์ฟทรู สแตนด์อะโลน จำนวน 10 สาขา  จากปัจจุบันเคเอฟซีมีสาขาในไทย จำนวน 500 สาขา ตั้งเป้าว่าอีก 7 ปี หรือภายในปี 2563 จะมีสาขาที่เปิดให้บริการรวม  750 สาขา ครอบคลุมทุกจังหวัดทั่วประเทศ