posttoday

พลังงานถกรับมือระบบไฟฟ้า-น้ำมันช่วงชุมนุม

29 พฤศจิกายน 2556

PTTGC ยอมรับ การเมืองมีผลกระทบกับธุรกิจ เล็งหาแผนสองย้ายแผนกสำคัญไประยอง ด้าน"พงษ์ศักดิ์" เรียกหารือดูแลมั่นคงไฟฟ้า-น้ำมันช่วงการชุมนุม

PTTGC ยอมรับ การเมืองมีผลกระทบกับธุรกิจ เล็งหาแผนสองย้ายแผนกสำคัญไประยอง ด้าน"พงษ์ศักดิ์" เรียกหารือดูแลมั่นคงไฟฟ้า-น้ำมันช่วงการชุมนุม

นายบวร วงศ์สินอุดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล เปิดเผยว่า จากการประเมินสถานการณ์พบว่า ผลกระทบยังไม่รุนแรง ยังอยู่ในขอบข่ายของแผนปฏิบัติการความต่อเนื่องทางธุรกิจ (บีซีเอ็ม) ขั้นต้น ระยะ 5-7 วันเท่านั้น แต่ยอมรับว่า ทำให้การดำเนินธุรกิจสะดุด ลูกค้าไม่สะดวกในการเดินทางเข้ามาติดต่อธุรกิจ ซึ่งหากการชุมนุมยืดเยื้ออาจต้องจัดหาที่ทำงานสำรองเพิ่มเติม หรือย้ายหน่วยงานที่ติดต่อกับบุคคลภายนอก เช่น ฝ่ายการขาย ฝ่ายการเงิน ไปทำงานที่ระยอง

นายบวร กล่าวด้วยว่า ผลกระทบทางการเมืองขณะนี้ยังประเมินได้ไม่หมด แต่่เริ่มเห็นการใช้น้ำมันเริ่มลดลง ซึ่งมีผลกระทบต่อรายได้โรงกลั่นน้ำมัน เพราะปัจจุบันก็มีปัจจัยเสี่ยงเศรษฐกิจโลกจากราคาน้ำมันเอเชียที่ปรับตัวสูงขึ้นอยู่แล้ว นอกจากนี้ มีผลต่อเนื่องไปยังปิโตรเคมี เช่น โอเลฟินส์ อะโรเมติกส์ เบนซีน พาราไซลีน ซึ่งปกติบริษัทจะประเมินผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกเป็นหลัก แต่ขณะนี้เริ่มนำการเมืองมาประเมินผลร่วมด้วย ซึ่งอาจกระทบต่อธุรกิจปี 2557

นายบวร กล่าวอีกว่า ส่วนธุรกิจการกลั่น พบว่าค่าการกลั่นในส่วนของน้ำมันเครื่องบินและดีเซลยังอยู่ในระดับที่ดี แต่กลุ่มเบนซินไม่ดีนัก เพราะส่วนต่างกับน้ำมันดิบมีจำนวนน้อย ส่งผลให้ค่าการกลั่นปี 2556 ไม่ดีเท่ากับปี 2555 อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เพราะกลั่นกลุ่มดีเซลเป็นหลัก โดยในปี 2557 คาดว่าแนวโน้มค่าการกลั่นยังคงอยู่ในเกณฑ์ต่ำ

สำหรับผลประกอบการของพีทีทีจีซี ปี 2555 มีรายได้ 560,000 ล้านบาท มีกำไร 34,000 ล้านบาท ส่วน 3 ไตรมาสปี 2556 มีรายได้รวม 395,000 ล้านบาท กำไร 25,900 ล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (29 พ.ย.) นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงาน เรียกประชุมผู้บริหารกระทรวงพลังงานและหน่วยงานในสังกัด เช่น บริษัท ปตท. บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เพื่อหามาตรการป้องกันโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน เช่น ระบบไฟฟ้า คลังน้ำมัน ไม่ให้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมืองที่ชุมนุมยืดเยื้อ และเพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชน