"วิน วิน" เตือนขายตรงนอกรีตระบาด

‘วิน วิน เวิลด์ไวด์’ แนะระวังขายตรงนอกรีต "มันนี่เกมส์" ระบาดหนักช่วงเศรษฐกิจขาลง คนอยากหารายได้เสริมสร้างรายได้

ภก.ประเสริฐ  หวานยิ่ง ประธานกรรมการ บริษัท วิน วิน เวิลด์ไวด์  ผู้ดำเนินธุรกิจขายตรง เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีการหลอกลวงว่าเป็นธุรกิจขายตรง โดยเน้นจ่ายผลตอบแทนให้กับผู้เข้าร่วมธุรกิจสูง หรือ แชร์ลูกโซ่มันนี่เกมส์ ยังระบาดหนักขึ้นอีกครั้ง ในวงการขายตรง เนื่องจากในช่วงนี้เศรษฐกิจตกต่ำผู้บริโภคต้องการหารายได้เสริมหรือประกอบเป็นอาชีพหลัก

“ธุรกิจแชร์ลูกโซ่ หรือมันนี่เกมส์ ยังไม่ตายไปจากเมืองไทย เนื่องจากขณะนี้มีหลาย บริษัทฯที่เปิดขึ้นมาบอกว่าทำธุรกิจขายตรงและจ่ายผลตอบแทนแบบไบนารี่  โดยจ่ายผลตอบแทนสูง 1-2 เดือนแล้วก็ปิดตัว เพื่อหลอกเอาเงินจากคนที่มาร่วมธุรกิจ ซึ่งจะเห็นได้ว่าบริษัทฯ ขนาดเล็กที่ไม่ยอมเข้าสังกัดสมาคมขายตรงส่วนใหญ่ทำธุรกิจแบบตีหัวเข้าบ้าน” ภก.ประเสริฐ กล่าว

ทั้งนี้ บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจขายตรงมานาน 7 ปี โดยเป็นสมาชิกในสมาคมการขายตรงไทย(TDSA) ปัจจุบันมีสมาชิกดำเนินธุรกิจ 1  หมื่นคน ในจำนวนดังกล่าว แอคทีฟในการทำงาน  2,000 คน และเป็นระดับผู้นำจำนวน100 ราย ซึ่งในปีหน้าบริษัทฯมีแผนจะเพิ่มสมาชิกระดับผู้นำให้ได้ 1,000 ราย 

ขณะเดียวกันจะสนับสนุนให้สมาชิกเปิดศูนย์ รูปแบบ Boss (Business one stop shop)หรือบอส ในต่างจังหวัดให้ได้ 100 แห่งในส่วนภูมิภาค โดยใช้เงินลงทุนเบื้องต้น 2 แสนบาท  จากปัจจุบันมีสาขาที่เปิดให้บริการแล้ว 3 แห่ง ในภาคเหนือที่ จ.เชียงใหม่ ลำพูน และลำปาง

“เราต้องการให้ วิน วิน เวิลด์ไวด์  เป็นขายตรงน้ำดี  จากเดิมที่เราเริ่มธุรกิจเมื่อ 2 ปีแรก ช่วงก่อตั้งก็ใช้ระบบไบนารี่แล้วมีปัญหาเรื่องการจ่ายผลตอบแทนสมาชิก ก็ปรับมาเป็นแบบสตาร์ สเต็ป แล้วก็ปรับมาเป็นไบนารี่  แบบแม็ทชิ่ง ที่สมาชิกทุกระดับต้องทำงานและมีสินค้าขายจริง แม้ว่าจะเติบโตช้าหน่อยแต่ก็ไปอย่างมั่นคง” ภก.ประเสริฐกล่าว

พร้อมกันนี้ บริษัทฯมีแผนจะแยกธุรกิจผลิตปุ๋ยออกจากเดิม ขายตรงหลายชั้น มาเป็นขายตรงชั้นเดียว ในชื่อ Gib ( Green  Innovative  Bio Technology)  โดยในปีนี้ธุรกิจปุ๋ยนั้นสร้างรายได้ให้บริษัท จำนวน 60  ล้านบาท  ขณะที่ธุรกิจขายตรงหลายชั้นสร้างรายได้  20  ล้านบาท  และตั้งเป้าว่าปีหน้าธุรกิจขายตรงหลายชั้นจะสร้างรายได้ 50 ล้านบาท  

ปัจจุบันสินค้าที่ทำตลาดในธุรกิจขายตรงประกอบด้วยผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง อาหารเสริมสุขภาพ และสินค้าในครัวเรือนมีจำหน่าย 40 เอสเคยู โดยเป็นสินค้า ที่จ้างผลิตทั้งหมด ซึ่งหากบริษัทฯมียอดขายระดับ 100-1,000 ล้านบาท จึงมีแผนตั้งโรงงานผลิตสินค้าเป็นของตนเอง