posttoday

"มาริสา สุโกศล หนุนภักดี"กับเส้นทางสานต่องานโรงแรม

04 พฤศจิกายน 2556

เปิดใจ "มาริสา สุโกศล หนุนภักดี" รองประธานกรรมการบริหาร กลุ่มโรงแรมในเครือสุโกศลกับเส้นทางการสานต่อธุรกิจของครอบครัว

โดย...จารุพันธ์ จิระรัชนิรมย์

เมื่อพูดถึงชื่อตระกูล "สุโกศล" หลายๆ คนอาจจะนึกถึงภาพการเป็นศิลปิน ตั้งแต่รุ่น กมลา สุโกศล ไปจนถึงรุ่นลูกๆ ต่างก็มีชื่อเสียงในวงการเพลง แท้จริงแล้วตระกูลนี้ยังคลุกคลีอยู่ในธุรกิจโรงแรมมายาวนานด้วย โดยมี กมลา สุโกศล ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มโรงแรมในเครือสุโกศล เป็นผู้บุกเบิก และล่าสุดก็เริ่มโอนถ่ายงานสู่รุ่นลูกๆ แล้ว

มาริสา สุโกศล หนุนภักดี รองประธานกรรมการบริหาร กลุ่มโรงแรมในเครือสุโกศล ซึ่งเป็นบุตรสาวคนโตของ กมลา สุโกศล เปิดเผยว่า ปัจจุบันเป็นมือขวาของคุณแม่ ดูแลงานบริหารในโรงแรมเกือบทุกด้าน โดยปัจจุบันคุณแม่เริ่มปล่อยให้รุ่นลูกดูแลทุกด้านเอง จะช่วยเพียงการให้คำแนะนำเท่านั้น ซึ่ง ดารณี สุโกศล บริโอเนส น้องสาวจะเข้ามาช่วยดูแลเรื่องการเงิน, กมล สุโกศล แคลปป์ น้องชายดูแลเรื่องการพัฒนาโครงการใหม่ๆ และกฤษดา สุโกศล แคลปป์ น้องชายดูแลด้านการออกแบบ วางแนวคิดโรงแรม

สำหรับงานใหญ่ชิ้นแรกที่รุ่นลูกเข้ามาเปลี่ยนแปลงคือ การปรับแบรนด์โรงแรมครั้งใหญ่ จากโรงแรมสยามซิตี้แอนด์รีสอร์ท เป็น สุโกศล เพราะมองว่า ชื่อสยามซิตี้ เรียบง่ายถูกลอกเลียนแบบชื่อง่าย ลูกค้าอาจจะเข้าใจสับสนกับชื่อโรงแรมอื่นที่ใกล้เคียงกัน เมื่อเปิดโรงแรมมา 15-16 ปี และได้ทุ่มเงิน 400 ล้านบาท ปรับปรุงโรงแรมครั้งใหญ่แล้ว จึงปรับเปลี่ยนชื่อโรงแรมให้มีแบรนด์ที่ชัดเจน และลงตัวที่การนำนามสกุลมาเป็นชื่อโรงแรม เพราะเมื่อสะกดเป็นภาษาอังกฤษ ชาวต่างชาติก็อ่านออกเสียงง่าย

ขณะที่หลังปรับปรุงโรงแรม ใช้ชื่อสุโกศล ได้ให้สมาคมโรงแรมไทยประเมินระดับโรงแรมก็ได้รับการการันตีเป็น 5 ดาวทันที ส่วนราคาห้องพักก็พยายามปรับขึ้นต่อเนื่อง

นอกจากนี้ก็เดินหน้าลงทุนโรงแรมเพิ่มเติม เช่น ใช้งบ 2,000 ล้านบาท สร้างโรงแรมเดอะ สยาม ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นโรงแรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ(บูทีค โฮเทล) มีแค่ 39 ห้องพักแบบพูลวิลล่า ทดลองเปิดตั้งแต่ มิ.ย.2555 เปิดเป็นทางการต้นปีนี้ มีอัตราเข้าพักเฉลี่ย 60-70% จัดเป็นโรงแรมที่ราคาแพงที่สุดในกรุงเทพฯ ประมาณ 1.6 หมื่นบาท และยังลงทุน 300 ล้านบาท สร้าง เวพ โฮเทล พัทยา 21 ห้อง เป็นบูทีคโฮเทล หรือเรียกว่า อาร์ท โฮเทล ก็ได้ เพราะรูปแบบตกแต่งผสมผสานด้วยศิลปะที่น้อย หรือกฤษดา สุโกศล ออกแบบ ทดลองเปิด มิ.ย. ที่ผ่านมา อัตราเข้าพักอยู่ที่ 70%

"มาริสา สุโกศล หนุนภักดี"กับเส้นทางสานต่องานโรงแรม

มาริสา กล่าวว่า ปีหน้ามีแผนเพิ่มรายได้ 20% จากปีนี้ โดยรายได้จะเพิ่มขึ้นจากโรงแรมที่เปิดใหม่ รวมถึงโรงแรมที่เพิ่งปรับปรุงซึ่งสามารถทำราคาได้ดีขึ้น ส่วนทิศทางการลงทุนของเครือสุโกศล หลังจากนี้จะเน้นลงทุนโรงแรมขนาดเล็กไม่เกิน 50 ห้องพัก ต่างจากเดิมที่ลงทุนโรงแรมขนาดใหญ่ เพราะมองว่า โรงแรมขนาดเล็กมีต้นทุนบริหารจัดการต่ำกว่า ใช้พนักงานน้อย ถ้ามีแนวคิดสร้างโรงแรมดี แตกต่างจากแบรนด์อื่น ก็จะมีจุดขายดึงคนมาใช้บริการได้

ขณะเดียวกันกำลังวางแผนลงทุนสร้างโรงแรมริมแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณฝั่งตรงข้ามวัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร จะเป็นโรงแรมขนาดกะทัดรัด มีเพียง 4 ห้อง เป็นห้องพักขนาดไม่ต่ำกว่า 85 ตารางเมตร คาดว่าจะใช้งบ 100 ล้านบาท ส่วนชื่อโรงแรมกำลังคิดอยู่ อาจจะเป็นสยามอรุณ น่าจะเปิดได้ปี 2558-2559 จากนั้นอาจไปลงทุนสร้างโรงแรมที่กาญจนบุรี เป็นโรงแรมระดับหรูมากๆ (ซุปเปอร์ ลักชัวรี โฮเทล) แต่สร้างด้วยแนวคิดรีสอร์ทพอเพียง (อีโค รีสอร์ท) ให้ผู้ที่เข้าพักได้ปลูกผักรับประทานกันเอง เป็นต้น คาดว่าจะเริ่มสร้างได้ปี 2560

ทั้งนี้มีเจ้าของโรงแรมบางแห่งเริ่มมาหารือกับเดอะสุโกศล ขอให้ช่วยบริหารโรงแรมให้แล้ว ซึ่งก็สนใจเพราะเป็นอีกแนวทางที่จะช่วยสร้างแบรนด์สุโกศล ให้เป็นที่รู้จักในตลาดมากขึ้นได้ อย่างไรก็ตามเดอะสุโกศล คงไม่รีบทำในช่วงนี้เพราะมองว่ายังไม่พร้อม ต้องใช้เวลาศึกษาอีกระยะ

ขณะที่ล่าสุดกลุ่มโรงแรมในเครือสุโกศล ได้ร่วมมือกับบริษัท การบินไทย มอบสิทธิพิเศษให้สมาชิกรอยัลออร์คิดพลัส สะสมไมล์ได้เพิ่มขึ้นเมื่อเข้าใช้บริการที่โรงแรมในเครือสุโกศล ได้แก่ เดอะสุโกศล กรุงเทพฯ, เดอะสยาม กรุงเทพฯ, เดอะเบย์วิว พัทยา, สยามเบย์ชอร์รีสอร์ท พัทยา และเวฟ พัทยา การร่วมมือครั้งนี้จะเป็นการขยายช่องทางการขายให้กับเครือสุโกศล สร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น เพราะการบินไทย มีสมาชิกรอยัลออร์คิดพลัส กว่า 2.4 ล้านคน ในจำนวนนี้เป็นคนไทย 50% ต่างชาติ 50% จึงตอบโจทย์การขยายลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ

มาริสา กล่าวว่า ภาพรวมการท่องเที่ยวไทยมีแนวโน้มดีต่อเนื่อง ต่างชาติยังสนใจมาไทยอยู่ เพราะคุ้มค่าที่สุด และชอบนิสัยคนไทยส่วนใหญ่ที่มีน้ำใจ อย่างไรก็ตามอยากให้รัฐเร่งแก้ปัญหาที่จะตามมารับกับนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะปัญหาคนไทยบางกลุ่มหลอกลวง เอาเปรียบนักท่องเที่ยว เพราะเป็นตัวบั่นทอนการท่องเที่ยวไทย

สำหรับสถานการณ์การเมืองในไทยนั้น ทุกครั้งที่มีการชุมนุมก็ทำให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวกังวลกันว่า จะเกิดเหตุการณ์รุนแรงที่ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติไม่กล้าเดินทางมา ซึ่งไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น เพราะผ่านเหตุการณ์มาแล้วหลายครั้งหลายปีที่ผ่านมา ทั้งปิดสนามบิน การชุมนุมกลุ่มเสื้อเหลือง และเสื้อแดง ซึ่งทุกครั้งก็ที่มีความรุนแรงก็ได้รับผลกระทบไปตามๆ กัน แต่เมื่อเหตุการณ์จบการท่องเที่ยวก็กลับคืนได้เร็ว

แม้การเมืองจะไม่สะเทือนท่องเที่ยวไทยระยะยาว แต่เชื่อว่าคงไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงอะไรมาเบรกความร้อนแรงของท่องเที่ยวไทยในเวลานี้แน่นอน

"มาริสา สุโกศล หนุนภักดี"กับเส้นทางสานต่องานโรงแรม