ร้านค้าไอทีเจ๊งแล้ว300ราย

ร้านค้าไอทีปิดตัวกว่า 300 แห่งทั่วประเทศ เหตุโน้ตบุ๊กหดตัวกว่า 20% แนะเร่งปรับรับสถานการณ์

แหล่งข่าวจากวงการไอที เปิดเผยว่า ปัจจุบันร้านค้าปลีกสินค้าไอทีได้ปิดตัวไปแล้วกว่า 300 แห่ง จากจำนวนร้านค้าปลีกไอทีทั่วประเทศประมาณ 3,000 แห่ง หรือคิดเป็น 10% ของร้านค้าปลีกไอทีทั้งหมด ซึ่งเป็นผลมาจากตลาดไอทีทั่วไปที่หดตัวประมาณ 5-10% โดยปัจจัยหลักมาจากตลาดโน้ตบุ๊ก ซึ่งมีสัดส่วนหลักมากกว่า 50% ของตลาดรวม หดตัวลงกว่า 20% เป็นผลให้ร้านค้าปลีกไอทีที่ไม่ได้เตรียมรับมือหรือไม่สามารถปรับตัวได้ เกิดปัญหาสภาพคล่องและสินค้าค้างสต๊อก

สำหรับปัจจัยที่ส่งผลให้ตลาดโน้ตบุ๊กหดตัวอย่างหนักในปีนี้ ส่วนหนึ่งมาจากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ทำให้ผู้บริโภคหันไปใช้งานสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตมากขึ้น แม้ว่าจะมีการเปิดตัวไมโครซอฟท์ วินโดวส์ 8.1 หรือการพัฒนาชิพประมวลผลใหม่ๆ ออกมา แต่โดยภาพรวมแล้วการใช้งานโน้ตบุ๊กยังทรงตัว

ด้านนายพรเทพ วัชรอำนวย รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายผลิตภัณฑ์และบริการ บริษัท แอดไวซ์ โฮลดิ้งส์ กรุ๊ป กล่าวว่า ตลาดไอทีทั่วไปหดตัวลง ซึ่งปัญหาหลักของร้านค้าปลีกและค้าส่งสินค้าไอทีคือ การบริหารสินค้าคงคลัง และการสร้างยอดขาย เนื่องจากสินค้าไอทีมีกำไรไม่มาก ดังนั้นการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ และการเปลี่ยนผ่านของเทคโนโลยีจึงเป็นส่วนสำคัญ

ขณะที่ในส่วนของแอดไวซ์สามารถทำได้ดีและยังคงรักษายอดขายไว้ได้ ส่วนหนึ่งมาจากโมเดลธุรกิจที่มีเครือข่ายร้านค้าไอทีภายใต้แบรนด์ แอดไวซ์ที่แข็งแกร่ง สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคตลอดช่วงที่ผ่านมา ซึ่งปีนี้คาดว่าจะมีรายได้ 1.28 หมื่นล้านบาทตามเป้าหมาย

แหล่งข่าวค้าปลีกเชนสโตร์สินค้าไอทีรายหนึ่ง กล่าวว่า ร้านค้าปลีกไอทีทั่วไปปิดตัวลงประมาณ 300 แห่งจริง ซึ่งช่วงเดือนพ.ย.-ธ.ค. เป็นช่วงที่ยอดขายสินค้าไอทีแย่ ก่อนจะกลับมาดีขึ้นในช่วงต้นปีอีกครั้ง ทางรอดคือต้องปรับตัว เช่น เพิ่มสินค้าใหม่ หรือเปลี่ยนไปขายสินค้าอื่นแทน ล่าสุดแม้แต่ผู้ประกอบการค้าส่งสินค้าไอทีรายใหญ่ ยังมีปัญหาสภาพคล่องจากสินค้าคงคลังเช่นกัน