posttoday

นูสกินเวียดนาม5ปีแซงไทย

01 ตุลาคม 2556

นู สกิน เวียดนาม มาแรง คาด 5 ปียอดขายอาจแซงตลาดไทย เหตุประชากรสูง คนนิยมแบรนด์ต่างชาติ

นู สกิน เวียดนาม มาแรง คาด 5 ปียอดขายอาจแซงตลาดไทย เหตุประชากรสูง คนนิยมแบรนด์ต่างชาติ

นางภคพรรณ ลีวุฒินันท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท นู สกิน เอ็นเตอร์ไพร์ส ประเทศไทยและเวียดนาม เปิดเผยว่า หลังจากเปิดธุรกิจขายตรงในเวียดนามอย่างเป็นทางการช่วงไตรมาส 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นสาขาประเทศที่ 53 ของนู สกิน ทั่วโลก และเป็นการเปิดตลาดที่ 7 ในภูมิภาคอาเซียน 10 ประเทศ โดยยังเหลือตลาดประเทศพม่า ลาว และกัมพูชา พบว่าได้รับการตอบรับที่ดี มียอดขาย 450 ล้านบาท มีจำนวนสมาชิก 3 หมื่นราย ดำเนินธุรกิจอย่างจริงจัง 15%

“ธุรกิจขายตรงเวียดนาม ถือว่าเติบโตเร็วมาก ในช่วงปีแรกสามารถทำยอดขายได้ 450 ล้านบาท ซึ่งถือว่าดีมาก คาดว่าจะเติบโตได้ปีละ 10-20% เป็นอย่างน้อย คาดว่าภายใน 5 ปี หากเติบโตได้เช่นนี้ต่อเนื่อง ยอดขายอาจจะแซงสาขาประเทศไทยก็เป็นได้ เพราะคนเวียดนามขยันทำงานและมีประชากรมากถึง 90 ล้านคน และใกล้จะถึง 100 ล้านคนแล้ว”นางภคพรรณ กล่าว

ทั้งนี้ กลยุทธ์ในการรุกตลาดเวียดนามในช่วงเปิดตลาด จะเน้นที่การสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้แทนจำหน่าย โดยมีกลุ่มผลิตภัณฑ์ต่อต้านความชราแบรนด์|เอจล็อค ในกลุ่มสกินแคร์ สร้างยอดขายได้ 70% อีก 30% เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสุขภาพ และมีแผนจะเปิดอีก 2 สาขา ที่บริเวณฮานอยและตอนกลางของประเทศภายในปีหน้า โดยจะใช้งบลงทุนต่อสาขาประมาณ 10-20 ล้านบาทซึ่งแต่ละสาขานั้นมีสัญญาการเช่าพื้นที่นาน 3-5 ปี

“แม้ว่าปัจจุบันกฎหมายธุรกิจขายตรงในเวียดนามยังไม่เกิดขึ้น แต่ก็ถือว่าคุมเข้มในการดำเนินธุรกิจ โดยได้ออกเป็นมาตรฐานที่เรียกว่าดีกรี 110 และทุกบริษัทจะต้องปฏิบัติตาม ซึ่งในเมืองไทยใช้เวลาเตรียมตัวนาน 2 ปี ก่อนที่จะเปิดตัวบริษัท เพราะต้องหาบริษัทกฎหมายมืออาชีพทางด้านธุรกิจขาย เพราะที่ผ่านมาการที่จะฝึกอบรมสมาชิกแต่ละครั้งเกิน 5 คน ต้องขออนุญาตจากทางรัฐบาล โดยมีการเฝ้าระวังเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการหลวกลวงผู้บริโภค”นางภคพรรณ กล่าว

สำหรับภาพรวมของธุรกิจขายตรงในกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน มีมูลค่าทางการตลาด 3.1 แสนล้านบาท โดยตลาดที่มีอันดับ 1 ได้แก่ มาเลเซีย รองลงมาเป็น ไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และเวียดนาม ซึ่งมูลค่าธุรกิจขายตรงในเวียดนามปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 8,500 ล้านบาท มีการเติบโต 12% เมื่อเทียบกับปี 2554 ซึ่งนับว่าเติบโตอันดับ 2 ของประเทศในกลุ่มเออีซี และเติบโตสูงสุดติด 1 ใน 10 ของอุตสาหกรรมขายตรงโลก

นอกจากนี้ ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมามีบริษัทยื่นขอเปิดดำเนินการในเวียดนามจำนวน 78 บริษัท และเปิดดำเนินการอยู่ในปัจจุบันจำนวน 54 บริษัท แบ่งเป็น แบรนด์ท้องถิ่น 83% และแบรนด์ต่างชาติ 17% โดยยอดขายส่วนใหญ่นั้นมาจากแบรนด์ต่างชาติสูงถึง 70% มาจากแบรนด์แอมเวย์ เฮอร์บาไลฟ์ นู สกิน ออริเฟลม อีก 30% มาจากแบรนด์ท้องถิ่นในประเทศ