posttoday

อิออนชูไทยต้นแบบ

21 กันยายน 2556

เดินหน้าบุกธุรกิจค้าปลีกภูมิภาคอาเซียน ล่าสุดผนึกอินเด็กซ์ลุยเฟอร์นิเจอร์

เดินหน้าบุกธุรกิจค้าปลีกภูมิภาคอาเซียน ล่าสุดผนึกอินเด็กซ์ลุยเฟอร์นิเจอร์

อิออนสยายปีกธุรกิจค้าปลีกบุกอาเซียนชูไทยเป็นต้นแบบ ร่วมทุนอินเด็กซ์ฯ ลุยเฟอร์นิเจอร์

นายนากาฮิสะ โอยามะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารประจำภูมิภาคอาเซียน บริษัท อิออน เปิดเผยว่า ยุทธศาสตร์การดำเนินธุรกิจค้าปลีกของอิออนนับจากนี้จะมุ่งไปที่ภูมิภาคอาเซียนมากขึ้น จากการเติบโตทางเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่มีถึง 600 ล้านคน โดยปี 2557 เตรียมเปิดศูนย์ค้าปลีกอิออนเพิ่มอีก 3 สาขา ในเวียดนาม กัมพูชา และอินโดนีเซีย รวมถึงศึกษาขยายไปยังประเทศอื่นๆ

นอกจากนี้ ยังได้วางให้ไทยเป็นต้นแบบการทำธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตในอาเซียน เพื่อ รองรับกับแผนขยายตลาดในอนาคต โดยปี 2559 เตรียมลงทุน 1,500 ล้านบาท เน้นขยายสาขาซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดเล็กแม็กซ์แวลูทันใจเพิ่มจาก 48 สาขา เป็น 100 สาขาทั่วประเทศ และซูเปอร์มาร์เก็ตแม็กซ์แวลูเพิ่มจาก 18 สาขา เป็น 20 สาขา ซึ่งก่อนหน้านี้ อิออน กรุ๊ป ได้ลงทุนธุรกิจค้าปลีกอาเซียนราว 4.9 หมื่นล้านบาท อาทิ ห้างอิออน ซูเปอร์มาร์เก็ต แม็กซ์แวลู สถาบันการเงินอิออน

สำหรับการร่วมทุนระหว่างอิออน ประเทศมาเลเซีย และอินเด็กซ์ฯ ได้จัดตั้งบริษัท อิออน อินเด็กซ์ ลิฟวิ่ง โดยอินเด็กซ์ฯ ถือหุ้น 30% และอิออน 70% เพื่อดำเนินธุรกิจค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านในมาเลเซียภายใต้แบรนด์อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ซึ่งจะเป็นสาขาธุรกิจที่ 6 ของกลุ่มอิออน กรุ๊ป

นอกจากนี้ ยังได้เตรียมจับมือร่วมกับอินเด็กซ์ฯ เพื่อขยายธุรกิจค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ในอินโดนีเซียและเวียดนาม ซึ่งเบื้องต้นจะให้บริษัท อิออน อินเด็กซ์ ลิฟวิ่ง เป็นผู้ลงทุนขยายธุรกิจหรืออาจใช้บริษัทท้องถิ่นในสองประเทศเป็นผู้ลงทุน เพราะที่ผ่านมากลุ่มอิออนมีการลงทุนในหลายๆ ประเทศ

น.ส.กฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ผู้ดำเนินธุรกิจเฟอร์นิเจอร์อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ กล่าวว่า แผนการดำเนินธุรกิจในมาเลเซียตั้งเป้าเปิด 30 สาขา ภายในระยะเวลา 1520 ปีจากนี้ โดยสาขาแรกจะเปิดที่เมืองกัวลาลัมเปอร์ขนาดพื้นที่ 5,000 ตารางเมตร ช่วงปลายปี 2557 หากได้รับการตอบรับดีจะพิจารณาจับมือกับอิออนขยายธุรกิจค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ไปในอินโดนีเซียและเวียดนามใน 3 ปีนี้

โดยมีทั้งรูปแบบการร่วมทุนหรือส่งออก”นางสาวกฤษชนก กล่าว

สภาพตลาดเฟอร์นิเจอร์ในมาเลเซียมีศักยภาพและเติบโตสูง เนื่องจาก 80% เป็นร้านค้าเฟอร์นิเจอร์ดั้งเดิม และอีก 20% เป็นแบรนด์เฟอร์นิเจอร์รายใหญ่ ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจเติบโต 5.2% รายได้ของประชากรราว 4.8 แสนบาทต่อปี มากกว่าไทย 2 เท่าตัว ส่งผลให้มียอดขาย 24 เท่าต่อตร.ม.

อย่างไรก็ตาม ขณะที่การเปิดตลาดในมาเลเซียจะผลักดันให้สัดส่วนรายได้ต่างประเทศเพิ่มจาก 10% เป็น 2030% และปั้นอินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ สู่การเป็นรีจินัลแบรนด์เต็มรูปแบบจากปัจจุบันมีรายได้มาจากภูมิภาคอาเซียน 5% และปีหน้าจะลงทุน 2,000 ล้านบาท ขยายธุรกิจค้าปลีกชุมชน เดอะวอล์ค และอินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ 4 สาขา ส่วนปีนี้ตั้งเป้ารายได้ 9,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ภาพรวมธุรกิจค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์มูลค่า 6 หมื่นล้านบาท แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจจะชะลอตัว แต่ปีนี้ตลาดเติบโต 15% รายได้สิ้นปีนี้ 9,000ล้านบาท เติบโต 5% ตามเป้าหมาย จากรายได้ 8 เดือน โต 5% หรือ 5,900 ล้านบาท