posttoday

ขยะอิเล็กทรอนิกส์พุ่งทุกปี

31 สิงหาคม 2556

คนไทยขี้เบื่อเปลี่ยนมือถือบ่อยจนสร้างขยะอิเล็กทรอนิกส์ พีซีตามมาติดๆ จากเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ที่พัฒนาเร็ว

คนไทยขี้เบื่อเปลี่ยนมือถือบ่อยจนสร้างขยะอิเล็กทรอนิกส์ พีซีตามมาติดๆ จากเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ที่พัฒนาเร็ว

ผลการศึกษาโครงการพัฒนาแนวทางการประเมินซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ กรมควบคุมมลพิษ คาดการณ์ปริมาณซากโทรศัพท์มือถือที่จะเกิดขึ้นในปี 2556 ที่ 9.14 ล้านเครื่อง และเพิ่มขึ้นเป็น 9.75 ล้านเครื่องในปี 2557 และทะลุ 10 ล้านเครื่อง ในปี 2558 ขณะที่ซากคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลปีนี้อยู่ที่ 1.99 ล้านเครื่อง เพิ่มเป็น 2.21 ล้านเครื่องในปี 2557 และ 2.42 ล้านเครื่องในปี 2558

ขณะที่ผลสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคกลุ่มครัวเรือนจะทำอย่างไรเมื่อไม่ใช้มือถือและคอมพิวเตอร์แล้ว พบว่า กว่า 50% นำไปขาย อีก 30% เก็บไว้ ขณะที่มีผู้บริโภคราว 8-12% นำไปทิ้งรวมกับขยะอื่น

เจมาร์ท ผู้ประกอบการจำหน่ายโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์ ระบุว่า ปัจจุบันผู้บริโภคเปลี่ยนเครื่องเร็วขึ้นจากเดิม 2-3 ปี เหลือ 6 เดือน แต่เครื่องเก่าที่มีไม่ถึงขั้นเป็นขยะอิเล็กทรอนิกส์ เพราะถ้าไม่เก็บเครื่องไว้สำรองก็จะนำไปขายต่อ ปัจจัยที่ทำให้คนเปลี่ยนเครื่อง เพราะต้องการใช้ 3G ซึ่งฟีเจอร์โฟนรุ่นเก่าใช้ไม่ได้ ซึ่งปีนี้ยอดขายเป็นสมาร์ทโฟน 60% ฟีเจอร์โฟน 40% ขณะที่มีซิมเปิดใช้กว่า 88 ล้านเลขหมาย แต่มีผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ 75% หมายความว่ามีเครื่องในตลาดมือสองรวมกับที่อยู่ตามบ้านเกือบ 20 ล้านเครื่อง

ส่วนร้านรับซื้อและขายโทรศัพท์มือถือมือสอง ชี้ว่า เห็นได้ชัดว่าผู้ใช้เปลี่ยนเครื่องบ่อยขึ้น เพราะระยะเวลาที่มีสินค้ารุ่นใหม่วางตลาด กับการนำมาวางจำหน่ายเป็นสินค้ามือสองมีให้เห็นเพิ่มขึ้นในระยะเวลาที่สั้นลง ที่ร้านมีเครื่องมือสองอายุใช้งานไม่เกิน 6-8 เดือน 30% อีก 70% เป็นเครื่องอายุการใช้งานเกิน 1 ปี

ผู้บริหาร บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ ระบุว่า คนไทยเปลี่ยนเครื่องคอมพิวเตอร์เฉลี่ยอยู่ที่ 5 ปี ขณะที่เครื่องเก่าถูกนำไปจำหน่ายให้ธุรกิจรับซื้อเครื่องมือสองมากกว่านำไปทิ้ง

นายสมชัย สิทธิชัยศรีชาติ กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) ผู้ค้าส่งสินค้าไอที และโทรศัพท์มือถือ กล่าวว่า กำลังมีโครงการร่วมกับดีแทค ทำที่ทิ้งขยะอิเล็กทอกนิกส์ เช่น แบตเตอรี่ หรือ เม้าส์ โดยดีแทคจะจ้างบริษัทต่างชาติมาเก็บไปแยกส่วน เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่อ

"ปัจจุบันประเทศไทยยังไม่มีการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นระบบ ทั้งที่มีขยะที่เกิดจากคอมพิวเตอร์ที่เสียหรือหมดอายุใช้งานทุกปี แต่เชื่อว่า เมื่อถึงเวลาจะเกิดธุรกิจรีไซเคิลเช่นเดียวกับในต่างประเทศ"