กมธ.จี้ชัชชาติแก้ทีโออาร์ซื้อรถเมล์เอ็นจีวี

กมธ.สว.จี้ชัชชาติแก้ทีโออาร์จัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี ชี้แบ่ง 8 สัญญารวบประมูล 1.3 หมื่นล้านส่อเอื้อประโยชน์เอกชน

เวลา 15.30 น.ที่รัฐสภา นายไพบูลย์ นิติตะวัน สว.สรรหา ในฐานะคณะกรรมาธิการศึกษา ตรวจสอบเรื่องการทุจริต และเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา แถลงว่า ทาง กมธ.ขอเรียกร้องให้นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม แก้ไขทีโออาร์จัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี จำนวน 3,183 คันของกระทรวงคมนาคม เนื่องจากเป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่เอกชน

นายไพบูลย์ กล่าวว่า ทางกมธ.ได้ประชุมโดยเชิญองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ (ขสมก.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันมาประชุม โดย กมธ.เห็นว่า ทีโออาร์ดังกล่าวแบ่งการประมูลออกเป็น 8 สัญญา สัญญาละประมาณ 1,600 ล้านบาท แต่เป็นทีโออาร์ที่เปิดประมูลในเวลาเดียวกันทั้ง 8 สัญญา จำนวน 3,183 คัน มูลค่ารวมกว่า 13,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ กมธ.เห็นว่าการแบ่งออกเป็น 8 สัญญาและประมูลคราวเดียวกันนั้นเป็นการเอื้อประโยชน์ต่อเอกชนเหมือนกรณีการประมูล 3 จี ดังนั้นควรจัดประมูลคราวละ 1 สัญญาให้มีการประมูลหลายครั้ง เพื่อที่ให้เกิดการแข่งขันอย่างเป็นธรรม

นายไพบูลย์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามผู้ประมูลต้องรับประกันการชำรุดบกพร่องของการใช้งานตามปกติของรถโดยสารทั้งคันไม่น้อยกว่า 3 ปี แต่ปรากฏว่าตามสัญญากลับระบุว่าต้องจ่ายค่าซ่อมบำรุงให้อีกคันละประมาณ 3 แสนบาทต่อปี หรือรวมแล้วปีละประมาณ 1 พันล้านบาท รวมเป็นเงิน 3 ปี 3 พันล้านบาท ซึ่ง กมธ.ตั้งข้อสงสัยว่าเหตุใดตามสัญญาจึงมียอดค่าซ่อมบำรุงรถใหม่สูงขนาดนี้ ทั้งที่มีการประกันซ่อมบำรุงรถใหม่อยู่แล้ว นอกจากนั้นอาจเป็นการประมูลซื้อรถ แต่แถมได้สัญญาค่าซ่อม ซึ่งมีมูลค่าเท่าๆ กันมาด้วยหรือไม่ ซึ่งอาจจะเป็นการหลีกเลียงการประมูลเรื่องค่าซ่อมบำรุง

“กมธ.จึงให้ ขสมก.นำข้อท้วงติงดังกล่าวไปแจ้งให้ รมว.คมนาคมทราบ เพื่อแก้ไขทีโออาร์ให้โปร่งใส ทำให้สามารถจัดหารถเมล์แอ็นจีวีได้โดยเร็ว แต่หากไม่มีการแก้ไขทีโออาร์ ทาง กมธ.จะยื่นเรื่องร้องเรียนต่อ ปปช.ฐานผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ