posttoday

แอมเวย์อัดฉีดอินเซนทีฟนักขายปั้นยอด

28 สิงหาคม 2556

แอมเวย์เพิ่มอินเซนทีฟจูงใจนักขายเร่งทำยอด รับมือเศรษฐกิจผันผวนกระทบขายตรงทำตลาดยากขึ้น

แอมเวย์เพิ่มอินเซนทีฟจูงใจนักขายเร่งทำยอด รับมือเศรษฐกิจผันผวนกระทบขายตรงทำตลาดยากขึ้น

นายกิจธวัช ฤทธีราวี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า การทำธุรกิจของบริษัทในปีนี้ถือว่าเหนื่อยกว่าในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจผันผวนอยู่ตลอดเวลา ต้องเผชิญกับปัจจัยลบภายนอกจากเศรษฐกิจโลก ภาระหนี้สินต่อครัวเรือนเยอะขึ้น ค่าเงินบาทของไทยที่แข็งค่าขึ้นและกลับมาอ่อนลง

ทั้งนี้ จากปัจจัยต่างๆ ที่เกิดขึ้นทำให้บริษัทต้องปรับแผนธุรกิจใหม่เพื่อตั้งรับกับความผันผวนที่จะเกิดขึ้น รวมทั้งเป็นการปรับแผนใหม่ตามวาระทุก 5 ปี โดยแผนงาน 5 ปีจากนี้ (2556-2560) จะปรับการเพิ่มอินเซนทีฟหรือเปอร์เซ็นต์จากการขายให้กับนักธุรกิจแอมเวย์สูงขึ้น ด้วยการพิจารณาจากเป้าหมายที่ทำได้

“เราต้องสร้างแรงจูงใจให้กับนักธุรกิจแอมเวย์เพื่อเร่งทำยอดให้เพิ่มสูงขึ้น โดยอยู่ระหว่างการหารือกับผู้บริหารแอมเวย์ที่บริษัทแม่สหรัฐอเมริกาว่าจะเพิ่มปรับขึ้นเปอร์เซ็นต์จากการขายให้กับ|นักขายระดับใดเท่าใดบ้าง ซึ่งเร็วๆ นี้จะประกาศให้กับนักขายได้รับทราบ เราเชื่อมั่นว่าจะเป็นกลยุทธ์ที่แรงและเห็นผล”นายกิจธวัช กล่าว

สำหรับแอมเวย์ประเทศไทยได้ดำเนินธุรกิจมานาน 26 ปี และถือว่าเป็นองค์กรที่ก้าวสู่ความเป็นผู้ใหญ่ ฐานสมาชิกที่ประกอบธุรกิจมีจำนวนมากกว่า 3 แสนราย มีสมาชิกที่ซื้อบริโภคกว่า 7 แสนราย และมีอีกจำนวนมากที่เป็นกลุ่มผู้บริโภคแต่ไม่ได้เป็นสมาชิกกว่าล้านราย การที่จะผลักดันให้เติบโตปีละ 15-20% เหมือนในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจึงทำได้ยากขึ้น

“ปัจจุบันแอมเวย์ประเทศไทยเติบโตปีละ 7-10% โดยในปีนี้ยังคงเป้ายอดขายไว้ที่ 1.8 หมื่นล้านบาท จากปีก่อนที่มียอดขาย 1.7 หมื่นล้านบาท ซึ่งยอดขายจะมาจากการขายในช่วงครึ่งปีหลังเป็นหลัก และจริงๆ แล้วคนไทยยังมีกำลังซื้อ แต่ชะงักไปในเชิงจิตวิทยาเท่านั้น”นายกิจธวัช กล่าว

นอกจากนี้ บริษัทจะให้ความสำคัญกับการทำตลาดผ่านสื่อประเภทโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะสื่อออนไลน์เพื่อเจาะไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้น ขณะเดียวกันจะเพิ่มศูนย์จำหน่ายสินค้าให้ครอบคลุมทั่วประเทศมากขึ้น โดยในสิ้นปีนี้จะเปิดให้ได้ 80 สาขา และคาดว่าในปีหน้าจะเปิดเพิ่มอีก 3 สาขา ซึ่งในกรุงเทพฯ เปิด 4 สาขา

ขณะเดียวกันจะเร่งพยายามผลักดันให้อาชีพนักธุรกิจอิสระเป็น 1 ใน 10 อาชีพในฝันของคนรุ่นใหม่ให้ได้ภายในปี 2563 หลังจากพบว่าปัจจุบันคนรุ่นใหม่ไม่ต้องการประกอบอาชีพประจำ รวมไปถึงอาชีพ รับราชการ เนื่องจากไม่มีอิสระทางการเงินและต้องทำงานค่อนข้างหนัก