posttoday

"มิตซูฯแอททราจ"คุมค่าคุมสมรรถนะ

14 สิงหาคม 2556

แอททราจ ให้ความคุ้มค่าและน่าสนใจด้านสมรรถนะเมื่อเทียบกับรุ่น อีโคคาร์ 4 ประตูซีดาน ในเซ็กเมนต์นี้

โดย...พลพัต สาเลยยกานนท์

นับได้ว่าเป็นรถอีโคคาร์รุ่นหนึ่งที่ถูกจับตามองมากที่สุดในเซ็กเมนต์นี้ เนื่องจากเป็นรุ่นที่เปิดตัวล่าสุดไปหมาดๆ ในตลาดสำหรับ “มิตซูบิชิ แอททราจ” ซึ่งวันนี้ “โพสต์ทูเดย์” ได้นำผลการลองขับมารายงานให้ท่านผู้อ่านได้รับทราบ

หลังจากที่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) ได้จัดทดสอบสมรรถนะ “มิตซูบิชิ แอททราจ” บนเส้นทาง นครพนม-อุดรธานี ในระยะทางรวมกว่า 370 กม. และเป็นเส้นทางที่วิ่งขนานเลาะริมแม่น้ำโขง ซึ่งการเดินทางครั้งนี้ได้รับอิทธิพลจากพายุ “มังคุด” ที่พาดผ่านบริเวณภาคเหนือและภาคอีสานของประเทศไทย ทำให้เพิ่มอรรถรสในการรับรู้สมรรถนะได้ในอีกระดับหนึ่ง

เริ่มต้นบททดสอบด้วยการลองนั่งเบาะที่นั่งด้านหลังจากการเดินทางโดย พลขับ ที่มิตซูฯ จัดไว้ให้เพื่อเดินทางไปรับฟังรายละเอียดพร้อมเยี่ยมชมผู้แทนจำหน่ายรายใหญ่ประจำจ. นครพนม อย่าง “มิตซูชาญมอเตอร์เซลส์” ซึ่งตำแหน่งที่นั่งด้านหลังบอกได้เลยว่า กว้างขวาง สะดวกสบาย ไม่มีผลต่อความสูงในระดับ 185 ซม. |ทั้งช่วงศีรษะ และช่วงขา ของตัวกระผมเองก็ตาม แถมยังที่พักแขนซึ่งมาพร้อมที่วางแก้วน้ำ เทียบได้กับรถในระดับสูงกว่าก็ไม่ปาน

เมื่อได้โอกาสประจำตำแหน่งที่นั่ง พลขับ หลังพวงมาลัย กวาดสายตาสำรวจภายในห้องโดยสาร ซึ่งคันที่ได้ลองสัมผัสเป็น “รุ่นรองท็อป” ซึ่งอุปกรณ์มาตรฐานหลักๆ แตกต่างจากรุ่นท็อปที่รุ่นนี้ไม่มีคือ จอแบบทัชสกรีน พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน ล้อแม็ก และเบาะหนัง เป็นต้น

"มิตซูฯแอททราจ"คุมค่าคุมสมรรถนะ

ส่วนทัศนวิสัยขณะขับขี่ค่อนข้างดีไม่ติดมุมอับสายตาที่ “เสาเอ” ทั้ง 2 ด้าน ขณะที่น้ำหนักพวงมาลัยถึงแม้จะรู้สึกเบาไปสักนิดเพื่อความสะดวกสบายในการขับขี่เอาอกเอาใจสาวๆ ในการควบคุมได้อย่างง่ายดาย แต่ก็ให้ความแม่นยำในระดับหนึ่งและมีช่วงจังหวะหมุนฟรีนิดหน่อยให้ความมั่นใจในช่วงทำความเร็ว

ตำแหน่งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ภายในจัดวางอย่างเรียบง่ายเน้นการ “หยิบ-จับ-ปรับ-หมุน” สะดวกดี เช่นเดียวกับการออกแบบภายนอกที่ดูเรียบหรูแฝงโฉบเฉี่ยวเล็กๆ

ด้านเครื่องยนต์ถึงแม้จะเป็นเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร DOHC 3 สูบ 12 วาล์ว MIVEC ให้กำลังสูงสุด 78 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดที่ 100 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ CVT ควบคุมการเปลี่ยนเกียร์และจดจำลักษณะนิสัยผู้ขับขี่แบบ INVECS III ต้องบอกเลยว่าเทคโนโลยีที่ใส่มาในคันนี้ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว

เนื่องด้วยการตอบสนองของเครื่องยนต์และเกียร์ เมื่อเทียบกับน้ำหนักตัวถังแบบ RISE BODY ที่มีน้ำหนักเบา แต่ทนทานด้วยเหล็กแข็งแรงพิเศษแบบ High Tensile Steel แถมยังแบกน้ำหนักผู้โดยสารและผู้ขับขี่อีก 2 ชีวิต แต่ก็ให้อัตราตอบสนองในช่วงออกตัวได้ดีไม่มีอืด แม้กระทั่งไต่ระดับความเร็วไปเรื่อยๆ ก็ยังให้ความสนุกสนานในการขับขี่อยู่ แถมยังใช้รอบเครื่องยนต์ในระดับต่ำแม้ความเร็วจะสูงอีกต่างหาก ตอบโจทย์ความประหยัดได้ดีทีเดียว

ขณะที่ช่วงเร่งแซงในจุดนี้อาจให้อารมณ์ความรู้สึกที่ตอบสนองช้าไปสักนิดและรับรู้ได้ถึงความเครียดของเครื่องยนต์จากเสียงที่เข้ามาภายในห้องโดยสาร และอัตราตอบสนองที่ดู “ตื้อๆ” แม้ว่าจะกดให้อัตราทดเกียร์ลดลง 1 เกียร์แล้วก็ตาม ต้องอาศัยการจับจังหวะดีๆ ก่อนตัดสินใจแซง

"มิตซูฯแอททราจ"คุมค่าคุมสมรรถนะ

สำหรับช่วงล่างของเจ้า “มิตซูบิชิ แอททราจ” คันนี้ ให้ความนุ่มนวลและการเกาะถนนที่ดีในระดับหนึ่ง ซึมซับแรงสั่นสะเทือนบนทางที่ไม่ได้เรียบเนียน แต่เมื่อใช้ความเร็วในการขับขี่และการเข้าโค้งมีบางช่วงรับรู้ถึงอาการโยนนิดๆ ในสภาพถนนจะเปียกฝนก็ตาม แต่ไม่เป็นปัญหาอะไรถ้าควบคุมความเร็วกับลักษณะการขับขี่ที่เหมาะสม

ฉะนั้นหากกำลังมองหารถที่ขับขี่ในเมืองเป็นหลักตอบโจทย์ความประหยัดได้ดี ถ้าจะขับออกต่างจังหวัดเป็นครั้งคราวก็สบายไม่มีปัญหา ให้ความคุ้มค่าและน่าสนใจด้านสมรรถนะเมื่อเทียบกับรุ่น อีโคคาร์ 4 ประตูซีดาน ในเซ็กเมนต์นี้

อย่างไรก็ตาม ถ้าตัดสินใจเลือก “มิตซูบิชิ แอททราจ” ที่สนนราคาค่าตัวเริ่มต้นที่ 4.43-5.82 แสนบาท แล้วล่ะก็แนะนำเลยว่าให้จัด “ตัวท็อป” ไปเลยเพราะเพิ่มเงินอีกเพียงหลักหมื่นกลางๆ แต่ออปชันที่ได้เพิ่มขึ้นจากตัวรองท็อปมากโขอยู่ ... คุ้มแน่!

"มิตซูฯแอททราจ"คุมค่าคุมสมรรถนะ

 

"มิตซูฯแอททราจ"คุมค่าคุมสมรรถนะ

 

"มิตซูฯแอททราจ"คุมค่าคุมสมรรถนะ

 

"มิตซูฯแอททราจ"คุมค่าคุมสมรรถนะ