posttoday

"อุปกรณ์เสริม"อีกด้านของไอทีที่ยังโต

07 สิงหาคม 2556

แม้มูลค่าตลาดต่ำ แต่จริงๆ แล้วสัดส่วนกำไรสูงมากกว่า 100% เพียงแต่ต้องเก่งพอจะสู้กับแบรนด์จากจีน

โดย...พรหมเมศร์ ศิริสุขวัฒนานนท์

ตลาดค้าปลีกไอทีตลอดครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ต้องบอกว่าซบเซาและชะลอตัวอย่างมีนัยสำคัญ บริษัทวิจัยการตลาดทั้งไอดีซีและจีเอฟเค ยืนยันตัวเลขใกล้เคียงกันว่า ตลาดหดตัวประมาณ 20-30% เห็นได้จากคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กที่ยอดขายหายไปจากตลาดพอสมควร จนเห็นแบรนด์ต่างๆ กระโดดเข้าไปร่วมวงตลาดมือถือกันอย่างสนุกสนาน เพราะสถานการณ์ตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง

อย่างไรก็ตาม ตลาดไอทีที่มีการเติบโตก็ยังคงมีให้เห็นอยู่ นั่นคือตลาดอุปกรณ์เสริม (Accessory) ที่หลายคนเคยมองข้าม เพราะอาจจะเห็นว่ามูลค่าตลาดต่ำ แต่จริงๆ แล้วสัดส่วนกำไรสูงมากกว่า 100% เพียงแต่ต้องเก่งพอจะสู้กับแบรนด์จากจีนที่พร้อมจะเลียนแบบและทำออกมาในราคาที่ต่ำกว่าได้ด้วย

พรรธสพล พันธ์เมธีสกุล รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซีแมช คอร์ปอเรชั่น ผู้ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์แบรนด์ วอกซ์ เปิดเผยว่า ตลาดอุปกรณ์เสริมไอทีมีการเติบโตมากในช่วงต้นปี โดยเฉพาะเคสสำหรับไอโฟน 5 แต่จากนั้นก็ชะลอลงบ้าง อีกทั้งสมาร์ทโฟนแบรนด์อื่นๆ ก็ไม่ได้มียอดขายแรงอย่างที่คาดไว้ ทำให้ตลาดอุปกรณ์เสริมไม่หวือหวาเท่าที่ควร

ตามปกติแล้ว มือถือรุ่นท็อปจะมีอายุประมาณ 10-12 เดือน ดังนั้นการเลือกผลิตเคสแบบต่างๆ ต้องคาดการณ์รุ่นที่จะได้รับความนิยมและมีการบริหารจัดการที่ดี เพื่อให้สินค้าที่ผลิตออกมาสามารถจำหน่ายได้หมด แต่ถ้าเป็นตระกูลไอโฟนถือว่าดีมาก เพราะส่วนใหญ่จะขายได้อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ เชื่อว่าร้านจำหน่ายอุปกรณ์เสริมต่างๆ จะเหลือเพียงผู้เล่นรายหลักชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากเป็นสินค้าที่มาไวไปไว อาศัยการปรับตัวเร็ว และต้องมีการบริหารจัดการสินค้าคงคลังที่ดีมาก ถ้ามีหลายสาขาจะสามารถกระจายสินค้า โยกย้ายสินค้าได้ทันกับความต้องการ ถ้าบริหารจัดการผิดพลาดนั่นหมายถึงว่า อุปกรณ์เสริมที่อาจจะขายไม่ได้ และสุดท้ายต้องลดราคาหนักๆ เพื่อตัดขาดทุนแทน

“อุปกรณ์เสริมมือถือขายได้เรื่อยๆ ส่วนอุปกรณ์เสริมไอทีก็ยังขายได้ดี เช่น เมาส์ คีย์บอร์ด และหูฟัง ที่มีกลุ่มคนที่จำเป็นต้องใช้งานอยู่อีกมาก รวมถึงกลุ่มเกมเมอร์ ที่ต้องการสินค้าคุณภาพสูง ทำให้แม้ตลาดไอทีคอมพิวเตอร์จะหดตัวมาก แต่อุปกรณ์เสริมกลับยังทรงตัวอยู่ได้ดี”พรรธสพล กล่าว

อีกตลาดหนึ่งที่ถือว่ามูลค่าสูงเช่นกันคือ ตลาดหมึกพิมพ์ โดยเฉพาะหมึกเทียบเท่า ที่เป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค ซึ่งมูลค่าตลาดหมึกเทียบเท่าคิดเป็น 35% ของตลาดหมึกรวม ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 2 หมื่นล้านบาท รวมทั้งเลเซอร์ อิงก์เจ็ต แฟกซ์ และดอทเมตริกซ์ ประเด็นคือต้องแสดงให้ผู้บริโภคเห็นว่า หมึกเทียบเท่ามีคุณภาพที่ดี ไม่ใช่หมึกปลอม โดยปัจจุบันมีแบรนด์ โคแมกซ์ และฟรีเจ็ต รวม 2 แบรนด์ ถือว่าครองส่วนแบ่งตลาดมากที่สุดในส่วนของหมึกเทียบเท่า

"อุปกรณ์เสริม"อีกด้านของไอทีที่ยังโต

สรศักดิ์ วงศ์ชินศรีสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจนเนอเรชั่น เอส ผู้จำหน่ายอุปกรณ์เสริมมือถือและไอที แบรนด์ ก๊อช และหูฟัง เซนไฮเซอร์ เปิดเผยว่า ตลาดเคสมือถือ แท็บเล็ต มีหลายคนคิดว่าทำตลาดได้ง่าย เพราะตลาดมีการเติบโตต่อเนื่อง นับเฉพาะสินค้ามีแบรนด์ มูลค่าตลาดหลายพันล้านบาทแล้ว แต่สุดท้ายจะรู้ว่าตอนนี้มีการแข่งขันสูง สินค้าล้นตลาด และจะมีเพียงผู้ทำตลาดที่เป็นมืออาชีพจริงๆ เท่านั้นที่ยังเหลืออยู่ ซึ่งมีประมาณ 4-5 บริษัทเท่านั้น

สำหรับเจนเนอเรชั่น เอส เน้นจับกลุ่มตลาดกลาง-บน ซึ่งเน้นเรื่องคุณภาพเป็นหลัก และคงไม่สนใจตลาดล่างเนื่องจากมีสินค้าไร้แบรนด์จากจีนจำนวนมากรออยู่แล้ว โดย 6 เดือนแรกสามารถทำได้ตามเป้าประมาณ 50 ล้านบาท โดยปีนี้คาดว่าจะสามารถทำรายได้ 100 ล้านบาทแน่นอน

ส่วนของแบรนด์หลักในการทำตลาดประกอบด้วย ก๊อช เป็นอุปกรณ์เสริมจากสิงคโปร์ เช่น แบตเตอรี่สำรอง หรือพาวเวอร์แบงก์ ช่วยแก้ปัญหาการใช้งานสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ซึ่งแบตเตอรี่หมดเร็ว จากการใช้งานที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เล่นเกม และแอพพลิเคชันมากขึ้น ซึ่งหลักการของพาวเวอร์แบงก์ คือ ต้องมีคุณภาพเรื่องปริมาณไฟฟ้าที่ชาร์จ การเก็บประจุไฟฟ้า ซึ่งหากเลือกซื้อจากสินค้าไม่มีแบรนด์อาจมีปัญหาเรื่องความปลอดภัยได้เช่นกัน และอาจทำให้สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตที่เป็นเจ้าของอยู่แบตเตอรี่เสื่อมเร็วกว่าที่ควรด้วย

ขณะที่ตลาดเคสสำหรับสมาร์ทโฟน เชื่อว่าต้องรอให้ไอโฟนเปิดตัวและวางจำหน่ายรุ่นใหม่ จะทำให้ตลาดกลับมาคึกคักได้ ส่วนซัมซุง ซึ่งเป็นอีกแบรนด์ที่มียอดขายที่ดี ก็มีส่วนช่วยกระตุ้นตลาดได้เช่นกัน

“บอกได้เลยว่าอุปกรณ์เสริมมือถือจะเน้นที่ 2 แบรนด์หลักนี้ คือ แอปเปิลไอโฟนและซัมซุง เนื่องจากมีจำนวนผู้ใช้มากพอที่จะผลิตอุปกรณ์เสริมออกมาทำตลาดได้ ส่วนผู้ใช้แบรนด์อื่นๆ มีทางเลือกคือซื้ออุปกรณ์เสริมที่ทางแบรนด์ผลิตออกมาเอง”สรศักดิ์ กล่าว