posttoday

พณ.เลือกข้าวหอมทุ่งกุลาเป็นของที่ระลึก

14 กรกฎาคม 2556

พาณิชย์เลือกข้าวหอมทุ่งกุลาร้องไห้ จัดทำเป็นของที่ระลึกให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ บรรจุข้าว 2-3 ขีดต่อชิ้น

พาณิชย์เลือกข้าวหอมทุ่งกุลาร้องไห้ จัดทำเป็นของที่ระลึกให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ บรรจุข้าว 2-3 ขีดต่อชิ้น

นางปัจฉิมา ธนสันติ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมฯได้คัดเลือกข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ เป็นข้าวที่จะนำมาจำหน่ายในรูปแบบของที่ระลึกตามสถานที่ท่องเที่ยวและสนามบิน ตามนโยบายของนายยรรยง พวงราช รมช.พาณิชย์ ที่ต้องการโปรโมทข้าวหอมมะลิไทยให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกได้รู้จัก เบื้องต้นจะมีการนำร่องบรรจุภัณฑ์ข้าวหอมมะลิไว้ 2 ชนิดคือหม้อดินเครื่องปั้นดินเผาจากเกาะเกร็ด และ แพคเกจจิ้งของยี่ห้อนารายา เนื่องจากมีรูปแบบที่สวยงามสามารถจูงใจให้นักท่องเที่ยวต่างชาติซื้อเป็นของที่ระลึกด้วย

ทั้งนี้ปริมาณข้าวสารที่จะบรรจุลงในบรรจุภัณฑ์อยู่ที่ ชิ้นละ 2-3 ขีด เพื่อความสะดวกต่อการซื้อไปฝากญาติๆของนักท่องเที่ยวในประเทศนั้น โดยปริมาณข้าว 2-3 ขีดก็สามารถรับประทานได้ 2 มื้อ ขณะเดียวกันก็จะให้ร้านที่จำหน่ายของที่ระลึกหุงข้าว เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชิมรสชาติก่อนที่จะซื้อสินค้าด้วย

"ของที่ระลึกดังกล่าว จะมีหลายราคาขึ้นอยู่กับต้นทุนของบรรจุภัณฑ์ หากเป็นบรรจุภัณฑ์ธรรมดาก็จะมีราคาอยู่ที่ 5 ดอลลาร์สหรัฐ แต่หากบรรจุด้วยหม้อดินเครื่องปั้นดินเผาจากเกาะเกร็ด ก็จะมีมูลค่าสูงกว่านี้อีก ดังนั้นจึงมั่นใจว่าข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ และ บรรจุภัณฑ์จะเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวอย่างมาก"

ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ ขณะนี้สามารถขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์จากสหภาพยุโรป (จีไอ)ได้แล้ว หลังจากใช้เวลานานถึง 4 ปีในการขอขึ้นทะเบียน ซึ่งเป็นสินค้าข้าวรายแรกในอาเซียนที่ได้รับจดจีไอในอียูโดยข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ของแท้จะต้องปลูกจากพื้นที่ 5 จังหวัด คือ ร้อยเอ็ด สุรินทร์ ศรีสะเกษ มหาสารคาม และยโสธร