ชี้บาทอ่อนหนุนส่งออกสิ่งทอโต5-10%

คาดส่งออกสิ่งทอปีนี้โต 5-10% อานิสงส์บาทอ่อน เอกชนรุกลงทุนเพื่อนบ้าน

นายสมศักดิ์ ศรีสุภรวาณิชย์ ประธานสหพันธ์อุตสาหกรรมสิ่งทอแห่งประเทศไทย และประธานกลุ่มอุตสาหกรรมสิ่งทอ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ยอดการส่งออกสิ่งทอของไทยไปต่างประเทศในปีนี้คาดว่าจะขยายตัว 5-10% จากปีที่ผ่านมา ซึ่งมีมูลค่า 1,391 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ การส่งออกเติบโต 8.15%

ด้านเครื่องนุ่งห่มคาดว่ายอดส่งออกจะเพิ่มขึ้น 5% จากปี 2555 ที่มีมูลค่า 898 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ในช่วง 4 เดือนแรก การส่งออกหดตัว 5% เป็นผลมาจากปัญหาเงินบาทแข็งค่าขึ้นมาก และเศรษฐกิจโลกชะลอตัว แต่เมื่อค่าเงินบาทอ่อนค่าลงมาที่ระดับ 31 บาทต่อเหรียญสหรัฐ จะส่งผลดีให้การส่งออกปรับตัวสูงขึ้น

สำหรับภาพรวมอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของไทยในขณะนี้ พบว่าสามารถแข่งขันและปรับตัวได้มากขึ้น หลังจากมีต้นทุนเพิ่มขึ้น การปรับขึ้นค่าแรงเป็นวันละ 300 บาทเมื่อช่วงต้นปี เพราะผู้ประกอบการอุตสาหกรรมสิ่งทอนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ในการผลิตเพิ่มขึ้น รวมทั้งได้ขยายการลงทุนไปยังประเทศเพื่อนบ้านแล้วประมาณ 20-30 บริษัท ทั้งประเทศลาว กัมพูชา พม่า และเวียดนาม เพราะมีต้นทุนค่าแรงถูกกว่าประเทศไทย โดยมีค่าแรงประมาณ 100 บาทต่อวัน

“อยากให้กลุ่มผู้ประกอบการสินค้าโอท็อปหันมาใช้นาโนเทคโนโลยีเพิ่มขึ้น เพราะช่วยสร้างมูลค่าและทำให้สินค้าโอท็อปไทยมีจุดเด่น สามารถแข่งขันได้ในตลาดอาเซียน เมื่อมีการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เช่น ผลิตภัณฑ์ผ้าไหมไทยสามารถใช้นาโนเทคโนโลยีมาเพิ่มมูลค่า หรืออาจเพิ่มกลิ่นดอกไม้ต่างๆ ลงไป” นายสมศักดิ์ กล่าว

ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าเมื่อมีการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในปี 2558 อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของไทยจะสามารถแข่งขันและขยายตลาดในอาเซียนได้ โดยประเทศไทยเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมสิ่งทอของภูมิภาค

ปัจจุบันตลาดส่งออกหลักของสินค้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มไทยได้แก่ สหรัฐ ยุโรป และญี่ปุ่น ซึ่งเป็นตลาดที่ยังเติบโตได้ดีต่อเนื่อง และมีสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ