posttoday

เอ็กโกกรุ๊ปพร้อมขยายกำลังการผลิตช่วยใต้

30 พฤษภาคม 2556

เอ็กโกกรุ๊ป พร้อมขยายกำลังการผลิตโรงไฟฟ้าขนอม รองรับการใช้ไฟฟ้าในภาคใต้ ควบคู่กับหนุนโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน

เอ็กโกกรุ๊ป พร้อมขยายกำลังการผลิตโรงไฟฟ้าขนอม รองรับการใช้ไฟฟ้าในภาคใต้ ควบคู่กับหนุนโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน

นายสหัส ประทักษ์นุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า (เอ็กโก กรุ๊ป) เปิดเผยว่า พร้อมลงทุนก่อสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ขยายกำลังการผลิตอีก 900 เมกะวัตต์ บนพื้นที่โรงไฟฟ้าขนอมเดิมกำลังการผลิต 800 เมกะวัตต์ ซึ่งจะปลดระวางในวันที่ 1 มิถุนายน 2559 ซึ่งเป็นไปตามแผนพัฒนากำลังไฟฟ้าระยะยาวที่จะป้อนกำลังผลิตแก่ภาคใต้ แต่ต้องขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาลว่ามีแนวทางจะเพิ่มปริมาณไฟฟ้าในพื้นที่ภาคใต้อย่างไร หลังจากเบื้องต้น กฟผ. มีแผนจะขยายกำลังการผลิตโรงไฟฟ้าถ่านหินที่กระบี่ นอกจากนั้นจะต้องพิจารณาเรื่องการจัดส่งก๊าซธรรมชาติจาก ปตท.ด้วยว่าจะสามารถป้อนก๊าซเข้าโรงไฟฟ้าได้อย่างเพียงพอหรือไม่ เพราะปริมาณก๊าซในอ่าวไทยเริ่มลดน้อยลง จนอาจต้องนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) เพิ่มมากขึ้นในอนาคต

นายสหัส กล่าวว่า บริษัทมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จำนวน 2 โรง ได้เริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้ว ได้แก่ โรงไฟฟ้า “บึงสามพัน” จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งดำเนินการโดยบริษัท จี-พาวเวอร์ ซอร์ซ (จีพีเอส) เดินเครื่องเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2556 และโรงไฟฟ้า “ลพบุรี โซลาร์ ส่วนขยาย” ที่ดำเนินการโดยบริษัท พัฒนาพลังงานธรรมชาติ (เอ็นอีดี) เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้ว เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2556

สำหรับความคืบหน้าของโครงการที่เอ็กโก กรุ๊ป มีส่วนเข้าถือหุ้น ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างในช่วงไตรมาสแรกจำนวน 4 โครงการ ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม “เทพพนา” ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ คืบหน้าประมาณ 70% คาดว่าจะเริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ได้ในเดือนกรกฎาคม 2556 โครงการโรงไฟฟ้า “พลังงานขยะชุมชนหาดใหญ่” จังหวัดสงขลา คืบหน้าประมาณ 65% คาดว่าจะเริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ในเดือนสิงหาคม 2556 โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ “โซลาร์ โก” ประกอบด้วยโรงไฟฟ้าจำนวน 6 แห่ง ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่จังหวัดนครปฐมและสุพรรณบุรี คืบหน้าแล้วประมาณ 20% คาดว่าจะเริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ในเดือนธันวาคม 2556 และโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำแบบฝายน้ำล้น “ไซยะบุรี” ใน สปป.ลาว อยู่ระหว่างการเตรียมพื้นที่และเริ่มก่อสร้างบางส่วน คืบหน้าประมาณร้อยละ 7 คาดว่าจะเริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ในเดือนมกราคม 2562

ปัจจุบัน เอ็กโก กรุ๊ป มีโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้ว จำนวน 20 แห่ง คิดเป็นกำลังการผลิตตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าตามสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทประมาณ 4,510 เมกะวัตต์ และมีโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและพัฒนา จำนวน 9 โครงการ คิดเป็นกำลังการผลิตตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าตามสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทประมาณ 1,610 เมกะวัตต์ รวมกำลังการผลิตตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าตามสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัททั้งสิ้นประมาณ 6,120 เมกะวัตต์

สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาสแรกของ เอ็กโก กรุ๊ป มีกำไรก่อนผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน จำนวน 2,090 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 364 ล้านบาท หรือ 21% อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ในระดับต่ำที่ 0.66 เท่า ถือว่าแข็งแกร่งและได้รับการสนับสนุนจากสถาบันการเงินเพื่อนำเงินมาขยายการลงทุนได้อีก