posttoday

จี้สปก.แก้ปัญหาที่ดินทำกินเกษตรกร

16 พฤษภาคม 2556

ปลัดก.เกษตร จี้ ส.ป.ก.เร่งแก้ปัญหาการไร้ที่ทำกินของเกษตรกร เล็งซื้อที่ดินเอกชนจัดสรรให้เกษตรกรเช่าหรือเช่าซื้อในราคาเป็นธรรม

ปลัดก.เกษตร จี้ ส.ป.ก.เร่งแก้ปัญหาการไร้ที่ทำกินของเกษตรกร เล็งซื้อที่ดินเอกชนจัดสรรให้เกษตรกรเช่าหรือเช่าซื้อในราคาเป็นธรรม

นายชวลิต  ชูขจร  ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  เปิดเผยว่า จากข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ระบุในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 มีเกษตรกรยากจนจำนวน 6.6 แสนรายที่ไร้ที่ดินทำกิน สะท้อนให้เห็นถึงการขาดโอกาสในการเข้าถึงทรัพยากรของประชาชนในบางกลุ่ม ซึ่งส่งผลต่อการสร้างรายได้และการสะสมสินทรัพย์  เพื่อยกระดับฐานะความเป็นอยู่ของครัวเรือน

ขณะที่ ข้อมูลของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร พบว่า ในปี 2554 มีเกษตรกรที่เช่าที่ดินผู้อื่นประมาณ 19.6% ของที่ดินเกษตรทั้งหมด 149.25 ล้านไร่ ซึ่งพบในภาคกลางสูงที่สุดประมาณ 36% โดยมีมากกว่า 10 จังหวัด ที่มีการเช่ามากกว่า 40% และพบสูงที่สุดที่ จ.พระนครศรีอยุธยา มีการเช่ามากถึง 72%  นอกจากนี้ ยังมีปัญหาที่เกษตรกรต้องจ่ายค่าเช่าสูง  และการเช่าส่วนใหญ่ไม่มีการทำสัญญาเช่าที่ถูกกฎหมาย หรือสัญญาเช่าไม่สมบูรณ์นำไปสู่การเช่าที่ไม่เป็นธรรมของเกษตรกรรายย่อย

อย่างไรก็ดี  แม้ว่าจะมีสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ดำเนินการจัดสรรที่ดินให้ผู้ไร้ที่ดินทำกิน แต่ที่ผ่านมา ส.ป.ก. มีการจัดหาที่ดินเอกชนโดยการจัดซื้อหรือเวนคืนน้อยมาก  เนื่องจากได้ให้ความสำคัญกับการดำเนินการในพื้นที่ของรัฐซึ่งมีเกษตรกรครอบครองอยู่เดิมตามนโยบายของรัฐ และปัจจุบันที่ดินของรัฐที่สามารถจัดได้นั้นกำลังจะหมดไป โดยรัฐยังขาดกลไกและมาตรการที่ชัดเจนในการรับคืนที่ดินจากเกษตรกรที่ไม่ประสงค์จะใช้ประโยชน์ในที่ดิน นอกจากนี้แล้ว ยังมีปัญหาจากข้อจำกัดของข้อกฎหมายบางมาตรา รวมถึงความซับซ้อนของขั้นตอนการจัดซื้อที่ดินที่ทำให้ต้องใช้ระยะเวลาในการดำเนินการจัดซื้อที่ดินเอกชน

นายชวลิต  กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงได้กำหนดแนวทางการกระจายการถือครองที่ดินเกษตรกรรมโดยกระบวนการปฏิรูปที่ดิน แบ่งเป็น 2 ประการ คือ 1.การเร่งรัดจัดซื้อที่ดินจากเอกชนเพื่อนำมาปฏิรูปที่ดิน โดยจัดสรรให้เกษตรกรเช่าหรือเช่าซื้อในราคาที่เป็นธรรม โดยมอบหมายให้ส.ป.ก.เร่งรัดจัดทำแผนการจัดซื้อที่ดิน จัดทำแผนการพัฒนาพื้นที่ที่จัดซื้อ รวมถึงจัดที่ดินให้ผู้ประสงค์จะเข้าทำประโยชน์ในที่ดินที่จัดซื้อ  2. เร่งรัดการพัฒนากลไกการหมุนเวียนที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน ซึ่งปัจจุบันพบปัญหาเกษตรกรที่ไม่ประสงค์จะใช้ประโยชน์ในที่ดิน เนื่องจากอายุมากและไม่มีผู้สืบทอดอาชีพเกษตรกรรรม แต่ไม่นำที่ดินคืนให้ ส.ป.ก. เนื่องจาก ส.ป.ก.ยังขาดความชัดเจนเรื่องการจ่ายค่าชดเชยกรณีที่เกษตรกรได้ลงทุนในพื้นที่แล้ว จึงเกิดปัญหาการละทิ้งที่ดิน ไม่ใช้ประโยชน์หรือปล่อยให้ผู้อื่นเช่า หรือเกิดการซื้อขายแบบผิดกฎหมาย ที่ดินบางส่วนจึงตกไปอยู่กับนายทุนที่ดินรายใหญ่ ทำให้ที่ดินนั้นไม่ได้นำมาจัดให้เกษตรกรที่ไม่มีที่ดินทำกิน หรือผู้ไร้ที่ดินทำกินที่รอโอกาสการได้รับจัดสรร

“การพัฒนากลไกการหมุนเวียนที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินนั้น ส.ป.ก.ควรเร่งรัดการกำหนดเกณฑ์ราคาประเมินที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินที่เหมาะสมสำหรับการจ่ายค่าชดเชย เพื่อรับคืนที่ดินจากเกษตรกร ที่ไม่ประสงค์จะใช้ประโยชน์ในที่ดิน นอกจากนี้ควรเร่งพัฒนากองทุนเพื่อการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ให้สามารถทำหน้าที่เป็นกลไกหลักในการรับคืนที่ดิน หรือ หมุนเวียนที่ดินจากเกษตรกรรายเดิมให้เกษตรกรรายใหม่ ทั้งในกรณีการคืนที่ดินปกติ และกรณีเกษตรกรไม่สามารถชำระหนี้กับ ธ.ก.ส.หรือสถาบันการเงินอื่นๆ” นายชวลิต  กล่าว