posttoday

เชฟโรเลต ครูซE85 พอเพียงทั้ง"ออปชั่น-น้ำมัน"

14 พฤษภาคม 2556

เชฟโรเลต ครูซ ไมเนอร์เชนจ์ ตัวนี้ เป็นรถที่มีค่าตัว “คุ้มค่ามาก” เมื่อเทียบกับคู่แข่ง

โดย...สไปซี่

เชฟโรเลต ครูซ เป็นรถยนต์อีกหนึ่งรุ่นของเชฟโรเลตที่ต้องเจอกับการแข่งขันในตลาดรถยนต์นั่งขนาดกลาง ที่มีคู่แข่งสุดหินอย่าง โตโยต้า คัมรี่ และฮอนด้า แอคคอร์ด ซึ่งเป็นคู่แข่งที่ “หมัดหนัก” เอาการทั้งในด้านของงบการตลาดและตัวโปรดักต์

แต่เชฟโรเลตเองก็ไม่ยอมแพ้ในตลาดนี้ เพราะในตลาดโลกครูซสามารถสร้างยอดขายได้เกือบ 1.9 ล้านคัน ล่าสุดเชฟโรเลตได้เปิดตัว เชฟโรเลต ครูซ โมเดล 2013 หรือ ครูซ ไมเนอร์เชนจ์ ลงลุยในตลาดเมืองไทย โดยจุดเด่นหลักของเชฟโรเลต ครูซ ไมเนอร์เชนจ์ นั่นคือ เครื่องยนต์ ที่สามารถใช้ร่วมกับน้ำมันเบนซิน E85 ได้

แม้ว่าในประเทศไทย หน่วยงานภาครัฐจะมีนโยบายส่งเสริมพลังงานทดแทน อย่างน้ำมันในตระกูลแก๊สโซฮอล์ทั้งหลาย แต่การสนับสนุนก็เป็นเพียง “ลมปาก” ทำให้ในปัจจุบัน เราจึงแทบหาสถานีบริการน้ำมันที่จำหน่าย E85 ได้น้อยเต็มที แล้วจะจูงใจให้ค่ายรถยนต์นำรถเติม E85 มาขายในเมืองไทยได้ไง

เชฟโรเลต ครูซ E85 เป็นรถยนต์ที่เชฟโรเลต ประเทศไทย พัฒนาขึ้นตามนโยบายสนับสนุนใช้พลังงานทดแทน เหมือนที่ได้พัฒนาเชฟโรเลต แคปติว่า เครื่องเบนซินที่เติม E85 ไปก่อนหน้านี้

ส่วนผลพลอยได้อีกประการของรถยนต์ E85 ก็คือ เสียภาษีสรรพสามิตต่ำกว่ารถยนต์ที่ไม่สามารถใช้ E85 ได้ ทำให้ราคาแข่งขันได้

ครูซ ไมเนอร์เชนจ์ รุ่นนี้น่าสนใจไม่น้อยครับ กับการวางตำแหน่งสินค้าที่เน้นความพอดีในเรื่องออปชั่น ที่ไม่ใส่มาแบบจัดหนักเหมือนคู่แข่ง

เชฟโรเลต ครูซE85 พอเพียงทั้ง"ออปชั่น-น้ำมัน"

รูปร่างหน้าตาของครูซ ไมเนอร์เชนจ์ ปรับไม่มาก เช่น กันชนหน้าที่ออกแบบใหม่ ไฟตัดหมอกดูทันสมัยขึ้น กันชนหลังสปอร์ตมากกว่ารุ่นเดิม ว่ากันง่ายๆ ก็คือ ภายนอกก็แต่งหน้าทาปากใหม่อีกนิดหน่อย ให้ดูวัยรุ่นมากขึ้นเท่านั้นเอง

ก้าวเข้ามาภายในห้องโดยสาร เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงไม่น้อยเหมือนกัน โดยเฉพาะวัสดุภายในห้องโดยสาร ไม่ว่าจะเป็นคอนโซลกลาง แผงประตู ที่ดูดีขึ้น หรูหรามากขึ้น ปุ่มสตาร์ตถูกปรับเปลี่ยนจากทรงสี่เหลี่ยมในรุ่นก่อน ให้เป็นทรงกลมในรุ่นนี้

พวงมาลัยหุ้มหนังแบบมัลติฟังก์ชั่น ที่สามารถควบคุมเครื่องเสียงภายในรถ และครูสคอนโทรล

คอนโซลหน้า มีจอกราฟฟิกแสดงผลข้อมูลรถเท่านั้น ไม่มีจอแอลซีดี เครื่องเล่นดีวีดี จอมองภาพเวลาถอยหลัง หรือระบบนำทางใดๆ แต่เครื่องเสียงในรถสามารถเล่นซีดี และสามารถเชื่อมต่อผ่าน AUX, Bluetooth และ USB

ถ้าถามผมว่า อุปกรณ์ในรถแค่นี้พอหรือไม่ ส่วนตัวมองว่า “เพียงพอ” เพราะส่วนตัวผมไม่ดูภาพยนตร์หรือทีวีขณะขับรถ ผมมีเนวิเกเตอร์แบบพกพาอยู่แล้ว

แต่หากใครชอบออปชั่นในรถเยอะๆ ก็ต้องมองข้าม ครูซ ไมเนอร์เชนจ์ คันนี้ไปเลยครับ ไม่ใช่แน่ๆ

ลองขับกันดีกว่าครับ กับเครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร ที่สามารถเติมน้ำมันได้ตั้งแต่ E10 เรื่อยไปจนถึง E85 ซึ่งเราเรียกเครื่องยนต์แบบนี้ว่า เฟล็กซ์ฟิว ที่ให้แรงม้า 141 แรงม้า ที่รอบเครื่องยนต์ 6,200 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุดที่ 177 นิวตัน-เมตร ที่รอบเครื่องยนต์ 388 นิวตัน-เมตรนั้นเป็นอย่างไร

ต้องบอกเลยว่า นี่เป็นรถยนต์นั่งขนาดกลางที่มีขนาดเครื่องยนต์เล็กที่สุดในตลาด เพราะโตโยต้า คัมรี่ และฮอนด้า ซีวิค นั้นเครื่องยนต์ขนาด 2,000 ซีซี คือเครื่องที่เล็กที่สุด

เชฟโรเลต ครูซE85 พอเพียงทั้ง"ออปชั่น-น้ำมัน"

หลายคนอาจมองว่า อ้าวอย่างนั้นก็วิ่งสู้คนอื่นไม่ได้ละสิ ก็ต้องบอกว่าใช่ หากมองในแง่ของกำลัง แต่หากมองในแง่ของความคุ้มค่า ก็ต้องถือว่าคุณได้รถนั่งขนาดใหญ่กว่าในราคาไม่ถึง 1 ล้านบาท

เครื่องเฟล็กซ์ฟิวตัวนี้หากมองแค่สมรรถนะของเครื่องยนต์อย่างเดียว ผมว่าธรรมดาๆ ครับ ไม่โดดเด่นอะไรมากนัก เครื่องยนต์ตัวนี้สามารถทำงานกับน้ำมัน E85 ได้ดีพอควร แม้ว่าจะต้องเหยียบคันเร่งหนักหน่อยสำหรับการเร่งแซงทั้งในความเร็วต่ำและความเร็วสูงก็ตาม

ไม่ได้อืด วิ่งไม่ออก เหมือนกับเครื่องยนต์ที่เติมน้ำมัน E85 ได้ในอดีต แต่ที่น่าประทับใจ คือ ระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด รุ่นใหม่ที่ใส่ไว้ในครูซรุ่นนี้สิครับ ที่ทำงานได้ดีทีเดียว ทั้งในเรื่องของจังหวะการเปลี่ยนเกียร์ที่ทำได้ค่อนข้างนุ่มนวลทีเดียว หากขับในการใช้ชีวิตประจำวัน แต่ผมยังสงสัยเหมือนกันว่า เมื่อต้องการเร่งแซงด้วยการคิกดาวน์คันเร่งให้เกียร์ปรับลงเป็นเกียร์ต่ำ รู้สึกว่าเกียร์จะงงๆ ว่าควรจะเข้าเกียร์ต่ำหรือปรับเป็นเกียร์สูงไว้ เพื่อประหยัดน้ำมัน

ผมเองก็ต้องเปลี่ยนความคิดเหมือนกันเกี่ยวกับอัตราเร่งของรถที่ใช้ E85 ว่าไม่อืดอะไรมากนัก แม้ว่าจะด้อยกว่าเวลาเติมน้ำมันประเภทอื่นก็ตาม แต่ก็อยู่เกณฑ์ที่รับได้ครับ ไม่ได้เป็นรถที่ขับสนุกสนานในแบบที่ว่าปรู๊ดปร๊าดทันใดในเมื่อแตะคันเร่ง พวงมาลัยเบาดีมาก เหมาะกับการใช้งานในเมือง ซึ่งสาวๆ น่าจะชอบ

เชฟโรเลต ครูซE85 พอเพียงทั้ง"ออปชั่น-น้ำมัน"

ความเงียบภายในห้องโดยสารอยู่ในเกณฑ์ดีทีเดียว ช่วงล่างหนึบหนับ ดีกว่าครูซรุ่นก่อนเยอะ เข้าโค้งหนักๆ ได้มั่นใจ ไม่โยนไปโยนมา เหมือนตัวเก่า เรียกว่าขับสบายทั้งในเมืองและต่างจังหวัด

ส่วนอัตราการสิ้นเปลืองนั้น ยังไม่สามารถบอกได้แบบชัดเจน เพราะการลองขับที่ผ่านมาส่วนใหญ่ เป็นการขับนอกเมืองเพื่อดูสรรมถนะของเครื่องยนต์เป็นหลัก อัตราการสิ้นเปลืองนอกเมืองน่าจะอยู่ที่ประมาณ 10 กม.ต่อลิตร และในเมืองน่าจะอยู่ที่ 8 กม.ต่อลิตร ซึ่งเมื่อเทียบกับราคาน้ำมัน E85 ที่จำหน่ายอยู่ที่ประมาณลิตรละ 21.38 บาท ขณะที่แก๊สโซฮอล์ 95 ลิตรละ 37.13 บาท (ราคาวันที่ 8 พ.ค.) ก็ต้องถือว่าคุ้มกว่าแล้วครับ เสียแต่ต้องเข้าปั๊มเติมน้ำมันบ่อยหน่อยเท่านั้น

ถามว่าน่าใช้หรือเปล่า ต้องบอกว่า เชฟโรเลต ครูซ ไมเนอร์เชนจ์ ตัวนี้ เป็นรถที่มีค่าตัว “คุ้มค่ามาก” กับเงินจำนวนเริ่มต้นที่ 9.98 แสนบาท แต่คุณจะได้รถที่ใหญ่กว่าชาวบ้าน เพราะเงินขนาดนี้ ก็ได้เพียงรถเล็กขนาดทั่วไปอย่าง ฮอนด้า ซีวิค โตโยต้า อัลติส ฟอร์ด โฟกัส มาสด้า 3 เท่านั้น

แต่แน่นอนว่า ออปชั่นภายในของครูซน้อยกว่าคู่แข่งทั้งนั้น ซึ่งก็ต้องมาวัดกันที่ตัวคุณแล้วว่า อยากได้รถที่ใหญ่โตโอ่โถง สบายๆ ดูภูมิฐานกว่า หรืออยากนั่งรถเล็กๆ แต่มีออปชั่นเต็มตัว ก็จ่ายเกือบล้านบาทเหมือนกัน

จะเลือกความคุ้มค่า หรือ ความฟู่ฟ่า ของออปชั่น ถามใจคุณก็แล้วกัน

เชฟโรเลต ครูซE85 พอเพียงทั้ง"ออปชั่น-น้ำมัน"