posttoday

พี่มากฯดันรายได้จีทีเอชพุ่ง

29 เมษายน 2556

จีทีเอชปลื้มหนังพี่มากฯ ดันรายได้เข้าเป้า 650 ล้าน โต 100% เล็งปรับแผนเน้นส่งหนังคุณภาพลงตลาด

จีทีเอชปลื้มหนังพี่มากฯ ดันรายได้เข้าเป้า 650 ล้าน โต 100% เล็งปรับแผนเน้นส่งหนังคุณภาพลงตลาด

น.ส.จินา โอสถศิลป์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม ไท หับ หรือจีทีเอช เปิดเผยว่า ผลการตอบรับของภาพยนตร์เรื่องพี่มาก...พระโขนง ที่มีรายได้ขณะนี้อยู่ที่ 500 ล้านบาท จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ 150-180 ล้านบาท ถือว่าประสบความสำเร็จเกิน|เป้าหมายที่วางไว้อย่างมาก และเมื่อรวมกับภาพยนตร์ที่เตรียมจะเข้าฉายในช่วงปลายปีอีก 1 เรื่อง จะทำให้รายได้รวมของบริษัทเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ตลอดปีอยู่ที่ 650 ล้านบาท หรือเติบโตจากปีก่อน 100%

“รายได้ที่เพิ่มมาสำหรับเรื่องพี่มาก... พระโขนง ในตอนนี้เกิดจากการดูซ้ำและการบอกต่อ ส่งผลให้ขณะนี้มีคนดูหนังเรื่องนี้มากถึง 3.5 ล้านคน ซึ่งสูงกว่าเรื่องแฟนฉัน ที่เข้าฉายเมื่อตอนปี 2546 ตอนนั้นมีผู้ชมอยู่ที่ประมาณ 2 ล้านคน จึงทำให้รายได้ของเรื่องพี่มากฯ สูงกว่าเรื่องแฟนฉัน เพราะตอนนั้นราคาตั๋วหนังเฉลี่ยที่ใบละ 80 บาทเท่านั้น” น.ส.จินา กล่าว

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทนับจากนี้จะเน้นคุณภาพในการผลิตภาพยนตร์เข้าฉายมากกว่าการเน้นจำนวนภาพยนตร์ ประกอบกับบริษัทมีการปรับแผนการดำเนินธุรกิจด้วยการหันมาผลิตละครออกอากาศทางทีวีในเครือของแกรมมี่ จึงต้องลดจำนวนภาพยนตร์และเน้นภาพยนตร์คุณภาพเข้าทำตลาดเท่านั้น

ทั้งนี้ ภาพรวมอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในปีนี้ หลังจากมีภาพยนตร์ไทยและต่างประเทศกระแสดีเข้าฉายเป็นจำนวนมาก เช่น พี่มาก...พระโขนง คู่กรรม ต้มยำกุ้ง นเรศวร จี.ไอ.โจ และไอรอนแมน คาดว่าจะส่งผลให้ภาพรวมตลาดสิ้นปีมีมูลค่าถึง 4,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีมูลค่า 3,500 ล้านบาท แบ่งเป็นต่างประเทศ 2,000 ล้านบาท และในประเทศ 1,500 ล้านบาท

ด้านนายสุธี ธรรมสิทธิ์บูรณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด สายงานธุรกิจเครื่องดื่ม บริษัท โออิชิ กรุ๊ป ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชาเขียวพร้อมดื่มโออิชิ เปิดเผยว่า บริษัทจะใช้กลยุทธ์มูฟวี่มาร์เก็ตติ้ง โดยร่วมกับโรงภาพยนตร์เอสเอฟจัดโปรโมชั่น “ดูหนังฟรีกับ โออิชิ กรีนที” เพื่อขยายฐานโออิชิ กรีนที ชนิดกล่องยูเอชทีในลูกค้ากลุ่มวัยรุ่น

ทั้งนี้เพื่อให้สัดส่วนตลาดของชาเขียวชนิดกล่องยูเอชทีเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันมีสัดส่วน 15% เมื่อเทียบกับขวดเพ็ตที่มีสัดส่วน 85% ขณะที่ตลาดรวม 1.2 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นกล่องยูเอชที 20% และขวดเพ็ต 80% และจากการทุ่มงบในการทำโปรโมชั่นโดยรวม 250-300 ล้านบาท คาดว่าจะผลักดันยอดขายให้เติบโต 30% ตามที่ตั้งเป้าไว้