posttoday

ชงงบจ้างสถานศึกษาปั้นล่ามแก้ไกด์ขาดแคลน

24 เมษายน 2556

สมศักย์ล้มแผนลดสเป็กไกด์ หวั่นผิดพ.ร.บ. พลิกชงงบกลางปีจ้างสถาบันศึกษาปั้นล่าม แก้ปัญหาไกด์ขาดแคลนด่วน

สมศักย์ล้มแผนลดสเป็กไกด์ หวั่นผิดพ.ร.บ. พลิกชงงบกลางปีจ้างสถาบันศึกษาปั้นล่าม แก้ปัญหาไกด์ขาดแคลนด่วน

นายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะประธานคณะกรรมการติดตามเร่งรัดพัฒนาการท่องเที่ยว เปิดเผยว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯได้ยกเลิกแนวคิดการลดวุฒิการศึกษามัคคุเทศก์ (ไกด์) จบมัธยมศึกษาปีที่ 6 สามารถสอบประกอบอาชีพไกด์ได้ จากเดิมวุฒิการศึกษาศึกษาระดับปริญญาตรี โดยเกรงว่าจะขัดต่อพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ไกด์

ทั้งนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวฯได้สั่งการให้กรมการท่องเที่ยว และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เร่งจัดทำแผนพร้อมกรอบงบประมาณดำเนินการ เพื่อเสนอของบประมาณกลางปี ต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา โดยเร่งว่าจ้างสถาบันการศึกษาในจังหวัดท่องเที่ยวหลัก อย่าง จ.เชียงใหม่ พัทยา ฯลฯ ผลิตบุคลากรแปลภาษาต่างประเทศ(ล่าม) ที่ขาดแคลน อย่างภาษาจีน รัสเซีย เกาหลี ญี่ปุ่น ช่วยลดผลกระทบจากการขาดแคลนไกด์อย่างหนัก รวมถึงสร้างแรงจูงใจให้คนรุ่นใหม่สนใจมาประกอบอาชีพล่าม และไกด์เพิ่มมากขึ้นในอนาคต

แนวคิดการผลิตล่าม ทดแทนไกด์ถือเป็นโครงการระยะสั้น มุ่งเจาะกลุ่มนักศึกษา โดยโครงการนี้รัฐบาลจะเป็นผู้จ่ายเงินค่าจ้างตอบแทนที่จูงใจให้คนไทยสนใจมาเป็นล่าม โดยทำหน้าที่ดูแลให้คำแนะนำนักท่องเที่ยวในแต่ละจุดที่กรมการท่องเที่ยว ตั้งศูนย์ให้คำแนะนำ

"เอกชนต้องการให้กระทรวงลดหย่อนนำคนต่างชาติมาเป็นไกด์ชั่วคราว แต่เป็นแนวคิดที่ผิดพ.ร.บ.เพราะเป็นอาชีพที่สงวนไว้เฉพาะคนไทย การปั้นล่ามขึ้นมาแก้ไขเฉพาะหน้า ในอนาคตหากโครงสร้างการว่าจ้างถูกปรับปรุงให้มีความมั่นคงและค่าตอบแทนที่ดี เชื่อว่าจะจูงใจให้คนเข้ามาทำอาชีพนี้มากขึ้น" นายสมศักย์ กล่าว

นอกจากนี้ที่ประชุมได้ร่วมกันหามาตรการดูแลนักท่องเที่ยวต่างชาติให้ได้รับความปลอดภัย เมื่อเดินทางมาเที่ยวประเทศไทย โดยในวันที่ 10 พ.ค.นี้ เตรียมหารือร่วมกับนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม เพื่อวางแนวทางร่วมกันแบบครบวงจร ป้องกันการเกิดเหตุร้ายกรณีนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีได้รับอุบัติเหตุสปีดโบ๊ตชนได้รับบาดเจ็บขาขาด บริเวณเกาะล้าน เทศบาลพัทยา จ.ชลบุรี ซึ่งถือเป็นอุบัติเหตุที่ทำลายภาพลักษณ์ประเทศไทย

นายสมศักย์ กล่าวว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯเตรียมวางมาตรการการเข้าให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยวอย่างทันทีกรณีเกิดเหตุร้าย ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาร่วมกันระหว่างททท.กับภาคเอกชน คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 1-2 เดือนนี้