posttoday

"ริธึ่ม" ลั่นกลองรบบุกตลาดนาฬิกาเอเชีย

13 เมษายน 2556

รึธึ่ม ปักธงบุกเอเชีย ทุ่มงบกว่า 1,000 ล้านบาท ผุดโรงงานเวียดนาม ขยายกำลังผลิต สิ้นปีโต 10 - 15%

รึธึ่ม ปักธงบุกเอเชีย ทุ่มงบกว่า 1,000 ล้านบาท ผุดโรงงานเวียดนาม ขยายกำลังผลิต สิ้นปีโต 10 - 15%

นายทากาโนริ คูโดะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานกรรมการ บริษัท ริวาโค ผู้ทำตลาดและจำหน่ายนาฬิการึธึ่ม เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทจะมุ่งขยายตลาดเอเชีย เพราะภาวะเศรษฐกิจขยายตัวสูง เมื่อเทียบในยุโรปและอเมริกาเศรษฐกิจชะลอตัว โดยจะขยายตลาดจีน อินโดนีเซีย และอาเซียน กำลังจะเข้าไปทำตลาดกัมพูชา

ทั้งนี้ ล่าสุดได้แต่งตั้งบริษัท อินโนเวชั่น ไทม์ เข้าไปทำตลาดในประเทศลาว และเพื่อรองรับการเติบโตภายใน 3 - 5 ปี ซึ่งบริษัทตั้งเป้ายอดขายเพิ่มขึ้น 2 เท่าตัว โดยได้ทุ่มงบกว่า 600 - 1,500 ล้านบาท ขยายโรงงานผลิตนาฬิกาแห่งที่ 9 ที่ประเทศเวียดนาม เพื่อรองรับกับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน จากปัจจุบันมีโรงงาน 8 แห่ง ที่จีน ญีปุ่น และเวียดนาม

สำหรับแผนระยะ 5 ปี บริษัทขยายไลน์กลุ่มนาฬิกาข้อมือเพิ่มขึ้นจาก 10% เป็น 50% และนาฬิกาตั้งโต๊ะจาก 50% เป็น 90% เนื่องจากรึธึ่มเป็นนาฬิกาเป็นอันดับหนึ่งในตลาดนาฬิกาตั้งโต๊ะจึงต้องการขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่อายุ 30 - 50 ปี ขณะเดียวกันได้นำรูปแบบช่องทางจำหน่ายของไทยที่ขายนาฬืการึธึ่มแบรนด์เดียวภายในร้านเป็นต้นแบบที่จะขยายไปทั่วโลก

อย่างไรก็ตาม ในปีนี้บริษัทจะนำร้านค้าต้นแบบของไทยนำไปเปิดที่จีน 60 แห่ง รวมทั้งประเทศอื่นๆ อีก พร้อมทั้งใช้งบอีก 60 ล้านบาท ทำตลาดทั่วโลกโดยมีนาฬิกาข้อมือคอลเลกชันใหม่กว่า 100 รายการ และนาฬิกาตั้งโต๊ะ 600รายการ ล่าสุดได้เปิดตัวนาฬิกาเจาะกลุ่มผู้หญิงในช่วงหน้าร้อนนี้ และเตรียมจัดงานประชุมนานาชาติเป็นครั้งที่ 2 ภายในปีนี้ที่ประเทศไทย

การจัดงานประชุมนานาชาติ เพื่อพัฒนาร้านค้าจำหน่ายนาฬิกาทั้งแบบตั้งโต๊ะและข้อมือ รวมถึงการพัฒนาสัมพันธ์ที่ดีกับดีลเลอร์ พร้อมกันจัดงานแสดงสินค้าและแนะนำสินค้าใหม่ๆ สู่ตลาด จากการดำเนินการตลาดเชิงรุกจะผลักดันรายได้ของบริษัทให้เติบโตในสิ้นปีนี้ 10 - 15% จากปีทีผ่านมามีรายได้ 1.8 หมื่นล้านบาท

น.ส.อิงอร ดิลกธราดล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินโนเวชั่น ไทม์ ตัวแทนจำหน่ายนาฬิการึธึ่มในไทย กล่าวว่า ปีนี้ยังไม่มีแผนขยายสาขาเพิ่ม จากปัจจุบันมี 50 สาขา และดีลเลอร์ 600 ราย และไม่มีแผนจะนำเข้านาฬิกาแบรนด์ใหม่ๆ มาทำตลาด แต่จะส่วนการทำตลาดในลาว ขณะนี้ได้เตรียมศึกษาตลาดรวมถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคก่อน นำนาฬิกาข้อมือมาจำหน่ายเพิ่มขึ้น โดยมีราคาตั้งแต่ 1,000 - 2 หมื่นบาท เพื่อทำให้แบรนด์สามารถเข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย สำหรับผลประกอบการปีนี้ ตั้งเป้าเติบโตไม่น้อยกว่า 30% จากปีที่ผ่านมามีรายได้ 600 ล้านบาท เติบโต 50%