เฝ้าระวังพายุฤดูร้อนหวั่นกระทบเสาไฟ

รองผู้ว่าการ กฟผ. ยืนยันเสาไฟฟ้าแรงสูงของ กฟผ.จะไม่ได้รับผลกระทบ หากเกิดพายุฤดูร้อนตามที่กรมอุตุฯ ประกาศเตือน

นายธนา พุฒรังษี รองผู้ว่าการระบบส่ง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า ระบบไฟฟ้าในขณะนี้ทุกอย่างเป็นปกติ หลังจากพม่าหยุดส่งก๊าซธรรมชาติ ตั้งแต่วานนี้ (5 เม.ย.) โดยโรงไฟฟ้าเอกชนเดินตามแผนงาน เช่นเดียวกับการเดินปรับเปลี่ยนเชื้อเพลิงในโรงไฟฟ้าที่ จ.ราชบุรี จากก๊าซธรรมชาติมาเป็นน้ำมันเตา ก็เป็นไปตามแผนที่สลับได้ร้อยละ 50 ของกำลังผลิต โดยวานนี้มีการใช้น้ำมันผลิตไฟฟ้า แยกเป็นน้ำมันเตา 13.8. ล้านลิตร และดีเซล 10.6 ล้านลิตร

ส่วนการใช้ไฟฟ้าในช่วงเช้าวันนี้ (6 เม.ย.) ซึ่งเป็นวันเสาร์ มีการใช้ไฟฟ้าต่ำเป็นปกติ โดยเมื่อเวลาประมาณ 10.50 น. ความต้องการใช้ไฟฟ้าอยู่ที่ 22,960 เมกะวัตต์ ทำให้มีสำรองพร้อมใช้เพิ่มเป็นประมาณ 5,000 เมกะวัตต์ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (7 เม.ย.) แม้โรงงานหลายแห่ง เช่น กลุ่มรถยนต์ จะกลับมาเดินเครื่องผลิตทดแทนที่ร่วมมือกับภาครัฐหยุดผลิตเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2556 ระบบไฟฟ้าก็จะรองรับได้ไม่มีปัญหา

“ตามที่ รมว.พลังงาน เป็นห่วงการใช้ไฟฟ้าวันที่ 9-10 เมษายน และขอความร่วมมือประชาชน เอกชน ร่วมกันลดใช้ไฟฟ้าต่อเนื่อง ขณะนี้นับว่าน่ายินดีที่เอกชนหลายแห่งเริ่มตอบรับ โดยเอสซีจีฯ แจ้งว่า วันที่ 9-10 เมษายน ช่วง 13.00-16.00 น. จะร่วมลดใช้ไฟฟ้าได้ถึง 75 เมกะวัตต์ โดยวานนี้ เอสซีจีฯ ลดการใช้ไฟฟ้าได้รวม 180 เมกะวัตต์ จากที่แจ้ง 100 เมกะวัตต์” นายธนา กล่าว

นายธนา ยังกล่าวด้วยว่า จากกรณีที่กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเตือนว่าอาจเกิดพายุฤดูร้อนนั้น ขอยืนยันว่าจะไม่กระทบต่อเสาไฟฟ้าแรงสูงของ กฟผ. จนส่งผลกระทบต่อความมั่นคงด้านไฟฟ้าแต่อย่างใด เพราะเสาไฟฟ้าต้านทานแรงลมได้สูงถึง 130 กม./ชม. ในขณะที่พายุฤดูร้อนจะมีความเร็วลมประมาณ 20-25 กม./ชม.