posttoday

ไทยหวังแผนป้องกันละเมิดช่วยหลุดบัญชี PWL

02 เมษายน 2556

ไทยส่งแผนรณรงค์และปราบปรามละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาให้ยูเอสทีอาร์แล้ว เชื่อไทยจะหลุดบัญชี PWL ถาวรอย่างแน่นอน

ไทยส่งแผนรณรงค์และปราบปรามละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาให้ยูเอสทีอาร์แล้ว เชื่อไทยจะหลุดบัญชี PWL ถาวรอย่างแน่นอน

นางปัจฉิมา ธนสันติ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า ได้ทำเรื่องข้อตกลงเกี่ยวกับแผนดำเนินงานด้านทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อให้ทาง ยูเอสทีอาร์พิจารณาทบทวนให้ไทยหลุดพ้นจากบัญชีจับตามองเป็นพิเศษ ( PWL)  ตามกฎหมายสหรัฐ มาตรา 301 พิเศษ หลังจากที่สหรัฐเตรียมจะประกาศว่าไทยจะหลุดพ้นจากบัญชีดังกล่าวหรือไม่ ในเดือนเมษายนนี้

ทั้งนี้ ได้จัดทำแผนเพื่อดูแลปัญหาละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้ทางสหรัฐเห็นชอบ ซึ่งแผนการดำเนินงานในระยะเวลา 9 เดือนของปีนี้ ตั้งแต่เดือนเมษายน จนถึงเดือนธันวาคม  โดยมีกิจกรรม อาทิ  การปลุกจิตสำนึก และสร้างความตระหนักในทรัพย์สินทางปัญญา และจะจัดทำการ์ตูนแอนิเมชั่น 5 ตอน ที่จะออกอากาศในวันที่ 26 เมษายนนี้ ซึ่งจะเป็นการ์ตูนปลุกจิตสำนึกของคนไทย โดยเฉพาะเยาวชน ซึ่งจะผ่านแทบเล็ต จำนวน 1.8 ล้านเครื่อง และกำลังพิจารณาร่วมกับเอกชน เพื่อจะกระจายการ์ตูนแอนิเมชั่นดังกล่าวผ่านสื่อต่างๆ ประกอบกับแผนเร่งระดมการปราบปราม โดยจะลดจำนวนร้านค้าในเขตพื้นที่เฝ้าระวังพิเศษ

ขณะเดียวกันทางด้านกฎหมายลิขสิทธิ์ ที่เกี่ยวกับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ดิจิตอล น่าจะสามารถเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรได้ในสมัยนี้ ส่วนเรื่องกฎหมายการแอบถ่ายในโรงภาพยนตร์ คาดว่า จะนำเสนอเข้าสู่สภาฯได้ในเดือนสิงหาคม รวมทั้งมาตรการที่ร่วมกับภาคเอกชน ที่จะเร่งปราบปรามและรณรงค์ในรูปแบบต่างๆ น่าจะทำให้แผนการดำเนินงานด้านทรัพย์สินทางปัญญา ที่เสนอไป จะทำให้ไทยสามาถหลุดจากบัญชีจับตามองพิเศษ ลงเหลือ บัญชีจับตามอง หรือ WL  อย่างถาวรได้

ขณะที่เรื่องการแก้ไข ทบทวน ร่างแผนปฏิบัติการตามยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบยาแห่งชาติ พ.ศ.2555-2559 ซึ่งถูกคัดค้านจากกลุ่ม เอ็นจีโอ ว่า เป็นการเอื้อให้กรอบการเจรจาความตกลงการค้าเสรีระหว่างไทย กับสหภาพยุโรปประสบความสำเร็จนั้น ไม่ได้เป็นเรื่องจริง เป็นเพียงการปรับถ้อยคำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน และการแก้ไขถ้อยคำดังกล่าว ยังอยู่ในกรอบของความตกลงทางการค้าว่าด้วยทรัพย์สินทางปัญญา หรือ ทริปส์ (TRIPs)ซึ่งไม่มีผลต่อการเข้าถึงยาของประชาชน และไม่ได้ส่งผลให้ราคายาแพงขึ้นแน่นอน ส่วนร่างยุทธศาสตร์ดังกล่าวเป็นแผนการพัฒนาระบบยาของประเทศที่ต้องทำอยู่แล้ว