posttoday

เอเซอร์ปรับทิศชิงตลาดล่าง

30 มีนาคม 2556

ทุ่ม 300 ล้านปรับภาพไอทีครบวงจรเร่งเครื่องไฮบริดดีไวซ์กระตุ้นยอด

ทุ่ม 300 ล้านปรับภาพไอทีครบวงจรเร่งเครื่องไฮบริดดีไวซ์กระตุ้นยอด

เอเซอร์ อัด 300 ล้านปรับกลยุทธ์แบรนด์ หนีตลาดแข่งเดือด หันบุกตลาดล่างชิงเค้กลูกค้ากลุ่มใหญ่

นายนิธิพัทธ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายบริหารการตลาด บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ เปิดเผยว่า ในปี 2556นี้บริษัทได้วางงบการตลาดรวม 300 ล้านบาท ในการปรับทิศทางการตลาดและปรับภาพลักษณ์แบรนด์ จากผู้จำหน่ายคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กสู่การเป็นผู้จำหน่ายอุปกรณ์ไอทีครบวงจร (โมบิลิตี ดีไวซ์)

การปรับทิศทางดังกล่าวเป็นผลมาจากปัจจัยของภาพรวมตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป โดยเฉพาะความใกล้เคียงของผลิตภัณฑ์ในกลุ่มโน้ตบุ๊ก แท็บเล็ต สมาร์ตโฟน บริษัทจึงต้องปรับตัวเพื่อพัฒนาสินค้าทางเลือกต่างๆ ให้เข้าถึงมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ บริษัทยังเห็นช่องทางในสินค้ากลุ่มใหม่ที่เรียกว่า “ไฮบริด ดีไวซ์” ผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาจากโน้ตบุ๊กร่วมกับแท็บเล็ต สามารถถอดหน้าจอแยกกับฐานคีย์บอร์ด เพื่อจับกลุ่มตลาดผู้ที่ลังเลในการเลือกซื้อสินค้าไอทีระหว่าง 2 ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว

“บริษัทเล็งเห็นช่องทางดังกล่าวจึงได้มีการขยับทิศทางการทำตลาดสินค้าไปยังสินค้ากลุ่มดังกล่าวเพื่อเลี่ยงการแข่งขันที่รุนแรง” นายนิธิพัทธ์ กล่าว

ทั้งนี้ คาดว่าในปี 2556 สินค้า “ไฮบริด ดีไวซ์” จะมีสัดส่วน 15% หรือ 3 แสนเครื่อง จากปี 2555 ที่มีสัดส่วนเพียง 1% จากตลาดรวมโน้ตบุ๊ก 2 ล้านเครื่องต่อปี มูลค่า 3.6 หมื่นล้านบาท และคาดว่าในปี 2557 จะเพิ่มสัดส่วนเป็น 50% ของตลาดรวม และจะทดแทนตลาดเน็ตบุ๊กที่จะหายไปจากตลาดแน่นอน

สำหรับแผนของบริษัทในปีนี้ จะมุ่งเจาะกลุ่มตลาดระดับล่างของทุกผลิตภัณฑ์ โดยตลาดแท็บเล็ตบริษัทจะเน้นทำผลิตภัณฑ์ในระดับราคาที่ต่ำกว่า 5,000 บาท ซึ่งถือได้ว่าเป็นฐานใหญ่คิดเป็นสัดส่วน 60% ของตลาดแท็บเล็ตโดยรวม ขณะที่ตลาดสมาร์ตโฟนจะเน้นทำผลิตภัณฑ์ในระดับราคาต่ำกว่า 1 หมื่นบาท ซึ่งมีฐานที่มีสัดส่วน 55% ในตลาด

ขณะที่กลุ่มไฮบริด ดีไวซ์ บริษัทจะเน้นทำการตลาดในระดับราคาต่ำกว่า 2 หมื่นบาท เพื่อขยายฐานและกินส่วนแบ่งตลาดส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นแผนงานในระยะสั้นของบริษัทที่มุ่งชิงส่วนแบ่งในตลาดล่าง ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ของทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ และยังเป็นฐานในการต่อยอดไปสู่กลุ่มผลิตภัณฑ์ระดับอื่นๆ ในอนาคต

ดังนั้น ในปีนี้บริษัทจะเปิดตัวในผลิตภัณฑ์ที่มุ่งจับตลาดล่างอีก 4 รุ่น จากปัจจุบัน 2 รุ่น โดยคาดว่าจะมีราคาเปิดตัวที่ต่ำกว่า 2 หมื่นบาท โดยเชื่อว่าผลิตภัณฑ์ในกลุ่มดังกล่าวจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ยอดจำหน่ายในกลุ่มโน้ตบุ๊กของบริษัทไม่ลดลง หรือเติบโตระดับ 5-10% จากตลาดรวมโน้ตบุ๊ก 2 ล้านเครื่อง

นายนิธิพัทธ์ กล่าวว่า ในปี 2557 จะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ในกลุ่มดังกล่าวครบไลน์ ซึ่งจะเป็นแรงสำคัญในการผลักดันยอดขายให้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% หลังจากในปีที่ผ่านมายอดจำหน่ายรวมไม่มีเติบโต โดยมียอดจำหน่ายรวม 1.3 หมื่นล้านบาท