posttoday

เอกชนเมินรัฐจำกัดนักท่องเที่ยวปีละ26ล้าน

27 มีนาคม 2556

เอกชนท่องเที่ยวเมินรัฐจำกัดต่างชาติเที่ยวไทยปีละ 26 ล้านคน เชื่อโตได้ถึง 40 ล้านคน จี้ปรับโครงสร้างพื้นฐานการบริการ

เอกชนท่องเที่ยวเมินรัฐจำกัดต่างชาติเที่ยวไทยปีละ 26 ล้านคน เชื่อโตได้ถึง 40 ล้านคน จี้ปรับโครงสร้างพื้นฐานการบริการ

นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอนตา) เปิดเผยว่า เอกชนท่องเที่ยวไม่เห็นด้วยกับแนวคิดการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาไทยประมาณ 25-26 ล้านคน/ปี ของกระทรวงการท่องเที่ยว เนื่องจากเป้าหมายรายได้ทางการท่องเที่ยว จำนวน 2 ล้านล้านบาท ปี 2558 กำหนดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติมีจำนวน 30 ล้านคน โดยมองว่าประเทศไทยจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ถึง 30-40 ล้านคน ในอีก 3-4 ปีข้างหน้า

ทั้งนี้กระทรวงการท่องเที่ยวฯต้องเร่งปรับโครงสร้างพื้นฐานการบริหารจัดการ โดยพัฒนาบุคคลากรด้านการท่องเที่ยว เช่น พนักงานขับรถบัสที่ได้มาตรฐาน การอบรมมัคคุเทศก์(ไกด์) ภาษาขาดแคลน ฯลฯ เพื่อผลักดันให้สินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทยมุ่งสู่ทัวร์คุณภาพ การวางแผนเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวใหม่ให้สอดคล้องกับการลงทุน โครงสร้างพื้นฐานการขนส่ง ระบบรถไฟฟ้าและระบบราง เป็นต้น

"ประเทศไทยไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะปฏิเสธนักท่องเที่ยวในตอนนี้ เพราะอานิสงส์ที่ต่างชาติเดินทางเข้ามามีหลายปัจจัยจัย เช่น ข้อวิวาททางการเมืองระหว่างกันของ จีน ญี่ปุ่น  เกาหลี ทำให้ทั้ง 3 ประเทศไม่เดินทางเที่ยวระหว่างกัน และหันมาเที่ยวไทยแทน แต่ไม่ใช่เหตุผลเพราะประเทศไทยมีจุดขายที่แข็งแกร่ง"นายศิษฎิวัตรกล่าว

สำหรับสถานการณ์การเดินของรักท่องเที่ยวผ่านสมาชิกแอตตา ช่วงไตรมาสแรกปีนี้ เติบโต 49% จำนวน 1.1 ล้านคน เทียบกับปีทีผ่านมา 9.8 แสนคน โดยเฉพาะตลาด สาธารณรัฐประชาชนจีน อินเดีย รัสเซีย

นายสุรพงษ์ เตชะหรูวิตร นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) เปิดเผยว่า ขณะนี้บุคลากรด้านโรงแรมของไทยขาดแคลนอย่างหนัก โดยเฉพาะแผนกแม่บ้าน พนักงานต้อนรับ ฯลฯ เนื่องจากภาพรวมการท่องเที่ยวไทยเติบโตอย่างก้าวกระโดด วัดได้จากอัตราการเข้าพักช่วงไตรมาสแรก ทั้งประเทศเฉลี่ย 80-85% เติบโต 12-13% โดยเดือนก.พ.ทีผ่านมา  ภาคใต้อัตราเข้าพัก 92% เพิ่มขึ้น 14% ภาคตะวันออก 81% เติบโต 15% ภาคตะวันตก 63% เติบโต 3% ภาคเหนือ 84% เติบโต 9%

ทั้งนี้ภาครัฐควรเพิ่มงบประมาณการฝึกอบรมบุคคลากรให้เพียงพอกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น เช่น การเพิ่มค่าตอบแทนที่สูงขึ้น เมื่อเทียบกับแรงงานอุตสาหกรรมอื่นๆ ซึ่งปัจจุบันค่าตอบแทนภาคการโรงแรมมีอัตราสูงกว่า 300 บาท/วัน 

สำหรับทิศทางการปรับราคาห้องพักโรงแรม ในเดือนต.ค.นี้คาดว่าจะปรับราคาขึ้นเล็กน้อย ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด เพราะขณะนี้จำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นผู้ประกอบการมองเห็นโอกาสทางการตลาด แต่ไม่สามาระปรับได้ทันที

อย่างไรก็ตามความต้องการของนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น สวนทางกับราคาห้องพักในประเทศไทย ซึ่งปี 2555 ที่ผ่านมา ประเทศไทยถูกจัดอันดับจากบริษัท Howard จัดอันดับให้ราคาห้องพักในประเทศไทยต่ำสุดในอาเซียนติดต่อกันเป็นปีที่ 3 โดยมีราคาเฉลี่ยที่ 93 เหรียญสหรัฐ/คืน เทียบกับประเทศสิงคโปร์ 240 เหรียญ/คืน

นายสุรพงษ์ กล่าวว่า หากรัฐบาลมีมาตรให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการให้สามารถปรับราคาห้องพักได้ รวมถึงแก้ปัญหาโรงแรมที่ไม่มีใบอนุญาตตามกฎหมายให้เข้าสู่ระบบ เชื่อว่าจะทำให้ภาพรวมราคาห้องพักในประเทศไทยขยับราคาใกล้เคียงกับคุณภาพและบริการที่ผู้ประกอบการให้กับนักท่องเที่ยว

สำหรับปัจจัยเสี่ยงที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว มองว่าปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองไทยมีผลต่อการเดินทางของนักท่องเที่ยวสูงสุด เมื่อเทียบกับอัตราค่าเงินบาทแข็งค่าเมื่อเทียบกับค่าเงินในหลายสกุล ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณกระทบต่อการเดินทางของนักท่องเที่ยว