posttoday

กรมประมงเร่งตัดตอนโพงพางจับสัตว์น้ำ

26 มีนาคม 2556

กระทรวงเกษตรฯ เดินหน้าบังคับใช้กฎหมายรื้อโพงพาง 11 จังหวัดที่เหลือ พร้อมหาแนวทางเยียวยา

กระทรวงเกษตรฯ เดินหน้าบังคับใช้กฎหมายรื้อโพงพาง 11 จังหวัดที่เหลือ พร้อมหาแนวทางเยียวยา

นายศิริวัฒน์  ขจรประศาสน์  รมช.เกษตรและสหกรณ์  เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการด้านการประมง  ว่า  เครื่องมือโพงพางเป็นเครื่องมือการทำประมงที่มีประสิทธิภาพสูงในการจับสัตว์น้ำโดยไม่เลือกชนิดและขนาด  เป็นการทำลายพันธุ์สัตว์น้ำอย่างร้ายแรง  อีกทั้งยังขวางกั้นทางเดินของสัตว์น้ำ  ตัดวงจรชีวิตของสัตว์น้ำที่มีการโยกย้ายถิ่นฐานในการขยายพันธุ์  และกีดขวางการสัญจรทางน้ำ  ตลอดจนส่งผลกระทบต่อการทำประมงของเครื่องมือประมงที่ถูกกฎหมาย  การทำประมงโพงพางจึงก่อให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการนำสัตว์น้ำขึ้นมาใช้ก่อนถึงขนาดแรกเริ่มสืบพันธุ์อย่างมาก  ซึ่งหากปล่อยให้สัตว์น้ำเติบโตได้จนถึงขนาดแรกเริ่มสืบพันธุ์ จะทำให้สัตว์น้ำมีมูลค่าเพิ่มขึ้นประมาณ 144,000 บาท/ปี  ดังนั้น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมประมงจึงได้กำหนดห้ามเครื่องมือประมงประเภทที่จับสัตว์น้ำโดยไม่เลือกชนิด  ขนาด  และทำลายระบบนิเวศพื้นท้องทะเลอย่างร้ายแรงในการทำประมง  เช่น  เครื่องมือโพงพาง  อวนรุน  อวนลาก  คราดหอย  เป็นต้น  เพื่ออนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำให้มีใช้ได้อย่างยั่งยืน 

นายศิริวัฒน์  กล่าวว่า  การแก้ไขปัญหาเครื่องมือโพงพางได้มีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง นับจาก พ.ร.บ.การประมง พ.ศ.2490  รวมระยะเวลากว่า 65 ปี  สามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาเครื่องมือโพงพางได้แล้วทั้งสิ้น 66 จังหวัด และกำลังอยู่ระหว่างดำเนินการรื้อถอนอีก 11 จังหวัด  ซึ่งในการพิจารณาของคณะอนุกรรมการฯ ครั้งนี้  มีมติเห็นควรให้มีการดำเนินการบังคับใช้กฎหมายกับจังหวัดที่เหลือทั้งหมดโดยเด็ดขาด  เพื่อไม่ให้เป็นประเด็นการเลือกปฏิบัติ  อย่างไรก็ตาม  ได้มอบหมายให้กรมประมงหาแนวทางการช่วยเหลือเยียวยาและบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ที่ใช้เครื่องมือโพงพาง  เช่น  การจ่ายค่าชดเชย  การพัฒนาส่งเสริมอาชีพ  หรือการให้ความรู้และสนับสนุนในเรื่องของการใช้เครื่องมือประมงที่ถูกต้องตามกฎหมายประเภทอื่นด้วย  ซึ่งการทำความเข้าใจและให้ความรู้ในเรื่องของการใช้เครื่องมือประมงต่างๆ นั้น กรมประมงได้มีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องอยู่เป็นประจำทุกปี 

“สาเหตุที่ต้องยกเลิกเครื่องมือโพงพางนั้น  เนื่องจากเป็นเครื่องมือที่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศอย่างมาก  สำหรับการเยียวยาความเดือดร้อนของผู้ที่ใช้เครื่องมือโพงพาง จากการบังคับใช้กฎหมาย จะมีคณะกรรมการระดับจังหวัดแต่ละจังหวัดเข้ามาร่วมพิจารณาด้วย  ซึ่งต้องพิจารณาในการดูแลเยียวยาอย่างรอบด้าน ในปัญหาเศรษฐกิจและสังคมที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต  ทั้งนี้  จังหวัดใดที่มีความพร้อมก็สามารถดำเนินการได้ทันที  โดยในขณะเดียวกันก็จะสรุปรายงานเรื่องการบังคับใช้กฎหมายยกเลิกเครื่องมือโพงพางนี้ส่งคณะกรรมการนโยบายประมงแห่งชาติรับทราบ  เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อขอรับการสนับสนุนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  อาทิ  กระทรวงมหาดไทย  เพื่อพิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหา  พร้อมเร่งดำเนินการตามอำนาจหน้าที่และตามกฎหมายต่อไป” นายศิริวัฒน์  กล่าว