posttoday

วิกฤตพลังงานไม่กระทบก๊าซหุงต้ม

26 กุมภาพันธ์ 2556

กรมการค้าภายใน ระบุประชาชนไม่จำเป็นต้องกักตุนก๊าซหุงต้ม มั่นใจกระทรวงพลังงานมีแผนดูแลภาคครัวเรือนที่ดี

กรมการค้าภายใน ระบุประชาชนไม่จำเป็นต้องกักตุนก๊าซหุงต้ม มั่นใจกระทรวงพลังงานมีแผนดูแลภาคครัวเรือนที่ดี

นายสันติชัย  สารถวัลย์แพศย์ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวถึงวิกฤตพลังงานจากการหยุดจ่ายก๊าซจะกระทบกับก๊าซหุงต้มว่า ขณะนี้สถานการณ์ก๊าซหุงต้มยังเป็นปกติ ซึ่งราคาขายปลีก จะเป็นไปตามที่กระทรวงพลังงานกำหนด และแม้ประเทศพม่าจะหยุดส่งก๊าซในช่วงวันที่ 5-14 เมษายนนี้ แต่จะไปกระทบกับการใช้ผลิตไฟฟ้าเป็นหลัก ไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้ก๊าซในครัวเรือนแต่อย่างใด ดังนั้นประชาชนหรือร้านขายก๊าซทั่วประเทศ ไม่จำเป็นต้องกักตุน ซึ่งกระทรวงพลังงาน มีแผนในการดูแลปริมาณความต้องการใช้ก๊าซอยู่แล้ว และที่สำคัญไม่ควรตื่นตระหนก ไปกักตุนสินค้า เพราะอาจจะส่งผลให้เกิดภาวะขาดแคลนได้

อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้พาณิชย์จังหวัดทำความเข้าใจกับตัวแทนจำหน่าย และประชาชนไม่ให้กักตุน เพราะหากเกิดขาดแคลนจะส่งผลต่อเนื่องไปถึงการขึ้นราคา ซึ่งปัจจุบันก๊าซขนาดถัง 15 กิโลกรัม อยู่ที่ 285 บาท ขนาด 48 กิโลกรัม อยู่ที่ 890 บาท บวกค่าขนส่งต่อถังไม่เกินถังละ 20 บาท หรือตามระยะทาง หากร้านค้าขายเกินราคาที่กำหนดหรือมีการกักตุนปฏิเสธการจำหน่าย ถือว่าเข้าข่ายกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ส่วนกรณีที่มีข่าวผู้ซื้อยินดีที่จะสั่งจองก๊าซล่วงหน้าในเดือนเมษายน โดยยอมที่จะจ่ายเงินในการซื้อไว้ก่อน และมีการเรียกเก็บเงินมัดจำไว้ 600-1,000 บาทต่อถัง เพื่อให้มั่นใจว่าจะมีก๊าซไว้ใช้ในช่วงดังกล่าว ถือเป็นการสมยอม คงห้ามไม่ได้ แต่หากขายเกินราคาที่กำหนดไว้ จะเข้าข่ายกระทำผิดกฎหมายทันที

"แต่ผมเห็นว่าการที่ภาคครัวเรือน หรือร้านค้า จะซื้อก๊าซไปกักตุนไว้ ไม่น่าจะเป็นไปได้ เนื่องจากแต่ละร้านค้า จะต้องเก็บค่ามัดจำ อย่างถังขนาด 15 กิโลกรัม จะมีราคาถังละ 1,500 บาท ซึ่งหากประชาชนจะกักตุน จะใช้เงินกักตุนถังจะมีค่าใช้จ่ายสูง" นายสันติชัยกล่าว