แอร์พอร์ตลิงก์พร้อมทำไลท์เรล

แอร์พอร์ตลิงก์พร้อมรับช่วงทำไลท์เรลบางใหญ่-บางซื่อ อ้อนรัฐอนุมัติซื้อ 7 ขบวนใหม่ ดันผู้โดยสารทะลุ 1 แสนคนต่อวัน

นายจำรูญ ตั้งไพศาลกิจ ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) และรักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ เปิดเผยว่า พร้อมดำเนินการโครงการรถไฟฟ้าขนาดเบา (ไลท์เรล) ระยะทางบางใหญ่-บางกะปิ หากทางกระทรวงคมนาคมเห็นว่ามีศักยภาพ  เพราะทางบริษัทมีความพร้อมจากการให้บริการแอร์พอร์ตลิงก์ในปัจจุบันและบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญอยู่แล้ว

ทั้งนี้ การลงทุนในโครงการไลท์เรลจะถูกกว่ารถไฟฟ้าขนาดใหญ่ (เฮฟวี่เรล) ประมาณ 30-40%  ขนส่งผู้โดยสารได้ประมาณ 1.5-2 หมื่นคนต่อเส้นทาง หรือน้อยกว่าเฮฟวี่เรล 50% ขณะนี้อยู่ระหว่างการให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ศึกษาความเหมาะสมและจุดคุ้มทุน พร้อมทั้งพิจารณาด้วยว่าจะให้หน่วยงานใดเป็นผู้ดำเนินการ

นอกจากโครงการไลท์เรลแล้ว อีก 2 โครงการที่ทางบริษัทสามารถดำเนินการได้ คือ รถไฟฟ้าส่วนต่อขยายพญาไท-ดอนเมือง และโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงสุวรรณภูมิ –ระยอง ซึ่งอยู่ระหว่างรอรัฐบาลพิจารณาเลือกเช่นเดียวกัน

สำหรับแผนการดำเนินงานของแอร์พอร์ตลิงก์ ต้องการให้ครม.อนุมัติให้การจัดซื้อ 7 ขบวนใหม่ 48 ตู้ มูลค่า 5,000 ล้านบาทให้เร็วขึ้น เพราะหลังจากครม.อนุมัติแล้วต้องใช้ระยะเวลา 2 ปี จึงจะนำรถเข้ามาเปิดให้บริการได้ ซึ่งขณะนี้แอร์พอร์ตลิงก์มีตั้งเป้าเพิ่มจำนวนผู้โดยสารจาก 5 หมื่นคนเป็น 1 แสนคนต่อวัน จะถึงจุดคุ้มทุน ดังนั้น หากมีขบวนรถไฟฟ้าที่สามารถให้บริการได้มากขึ้น ก็จะทำให้บริษัทถึงจุดคุ้มทุนได้เร็วขึ้น

ปัจจุบัน แอร์พอร์ตลิงก์มีรายได้ 40 ล้านบาทต่อเดือน มีผู้โดยสารเฉลี่ย 5 หมื่นคนต่อวัน ซึ่งบริษัทกำลังเร่งหากลยุทธ์ทางการตลาดเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มปริมาณคนใช้งานและรายได้ในช่วงเวลา  11.00-14.00 น. ซึ่งเป็นช่วงที่แทบไม่มีผู้โดยสารเลย หลังจากลดราคาค่าโดยสารเหลือ 20 บาทต่อเที่ยวไม่ประสบความสำเร็จ

อย่างไรก็ตาม  แอร์พอร์ตลิงก์ได้รับผลกระทบจากการที่สายการบินแอร์เอเชียย้ายไปขึ้น-ลงที่สนามบินดอนเมือง ส่งผลให้ปริมาณผู้โดยสารหายไปวันละ 2,000-3,000 คน  จึงต้องเร่งนำเสนอแคมเปญใหม่หลากหลายรูปแบบเพื่อกระตุ้นยอดผู้โดยสารให้กลับมาเท่าเดิมโดยเร็ว ตั้งเป้าเพิ่มรายได้ปีนี้อีก 10%

ขณะที่นโยบายการลดใช้ไฟฟ้าลง 10% แอร์พอร์ตลิงก์พร้อมดำเนินการ โดยจะเน้นประหยัดพลังงานในส่วนของสักนักงาน และยืนยันว่าไม่กระทบต่อการให้บริการรถไฟฟ้าแน่นอน