posttoday

เริ่มขึ้นราคาแอลพีจีครัวเรือนเม.ย.นี้

08 กุมภาพันธ์ 2556

กพช.ตรึงราคาแอลพีจีภาคครัวเรือนถึง มี.ค. 56 เตรียมหามาตรการบรรเทาผลกระทบผู้มีรายได้น้อย พร้อมหนุนปลูกพืชพลังงานผลิตไฟฟ้า

กพช.ตรึงราคาแอลพีจีภาคครัวเรือนถึง มี.ค. 56 เตรียมหามาตรการบรรเทาผลกระทบผู้มีรายได้น้อย พร้อมหนุนปลูกพืชพลังงานผลิตไฟฟ้า

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ในวันนี้ (8 ก.พ.) โดยที่ประชุม กพช. เห็นชอบให้ขยายเวลาตรึงราคาก๊าซแอลพีจีภาคครัวเรือนที่ 18.13 บาท/กก. ไปจนถึงเดือนมีนาคม 2556 โดยให้ปรับราคาขายปลีกก๊าซแอลพีจีภาคครัวเรือนให้สะท้อนต้นทุนโรงแยกก๊าซธรรมชาติที่ 24.82 บาท/กก. ภายในปี 2556 และมอบให้คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) พิจารณาแนวทางการปรับราคาขายปลีกก๊าซแอลพีจีภาคครัวเรือน และการบรรเทาผลกระทบกลุ่มครัวเรือนรายได้น้อย และร้านค้า หาบเร่ แผงลอยอาหาร  พร้อมทั้งให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาแก้ไขคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 4/2547 เรื่อง กำหนดมาตรการเพื่อแก้ไขและป้องกันภาวะการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิงโดยให้ผู้ที่ได้รับการชดเชยจากกองทุนน้ำมันฯ จะมีเพียงผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 7 และผู้นำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งไม่รวมถึงครัวเรือนรายได้น้อย และร้านค้า หาบเร่ แผงลอยอาหาร

ที่ประชุม กพช. เห็นชอบอัตรารับซื้อไฟฟ้าจากโครงการวิสาหกิจชุมชนพลังงานสีเขียวจากพืชพลังงานในรูปแบบ Feed - in Tariff ในอัตรา 4.50 บาท/หน่วย เป็นระยะเวลา 20 ปี และให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานไปจัดทำระเบียบการรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการฯ ต่อไป

นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ ยังได้พิจารณาโครงการวิสาหกิจชุมชนพลังงานสีเขียวจากพืชพลังงาน ซึ่งเป็นโครงการส่งเสริมให้เกษตรกรรวมกลุ่มกันเป็นวิสาหกิจชุมชนหรือสหกรณ์การเกษตรทำการปลูกพืชพลังงานเพื่อผลิตก๊าซชีวภาพนำไปผลิตไฟฟ้า ก๊าซชีวภาพอัด (CBG) และใช้แทนก๊าซแอลพีจี โดยมอบหมายให้ตั้งคณะกรรมการร่วม 9 กระทรวง เพื่อศึกษาความเหมาะสมของโครงการทั้งระบบแบบครบวงจร

นอกจากนี้  กพช. ยังเห็นชอบแผนปฏิบัติการอนุรักษ์พลังงาน 20 ปี (พ.ศ.2554 – 2573) ซึ่งการลงทุนเพื่อการอนุรักษ์พลังงานในแต่ละปีจะส่งผลให้เกิดการประหยัดพลังงานและการหลีกเลี่ยงการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) พร้อมทั้งตั้งคณะอนุกรรมการภายใต้คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงานในการกำกับติดตามการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการอนุรักษ์พลังงาน

ที่ประชุมฯ เห็นชอบหลักการของร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลต่อการจัดตั้งศูนย์ประสานงานการซื้อขายไฟฟ้าระหว่างประเทศสมาชิกในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (IGM) เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีและรัฐสภาให้ความเห็นชอบร่างฯ ต่อไป และ กพช. ยังพิจารณาขยายอายุสัญญาซื้อขายไฟฟ้าโครงการน้ำงึม 1 ออกไป 3 ปี จนถึงปี 2560 และขยายอายุสัญญาฯ โครงการเซเสด ออกไป 4 ปี สิ้นสุดปี 2560 เช่นกัน พร้อมกับเห็นชอบร่างสัญญาซื้อขายไฟฟ้าโครงการน้ำเงี้ยบ1 ซึ่งมีกำลังการผลิต 269 เมกะวัตต์ กำหนดจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์เดือนมกราคม 2562