posttoday

รีเจนท์ผุดรีสอร์ทคอมเพล็กซ์ชะอำ

03 กุมภาพันธ์ 2556

รีเจนท์ กรุ๊ป เล็งพัฒนาที่ตรงข้ามรีเจนท์ ชะอำ พร้อมจับมือบิ๊ก 1 ใน 3 ของวงการอสังหาฯ สร้างรีสอร์ท คอมเพล็กซ์ ด้านหน้ารีเจนท์ ชะอำ มี.ค.

รีเจนท์ กรุ๊ป เล็งพัฒนาที่ตรงข้ามรีเจนท์ ชะอำ พร้อมจับมือบิ๊ก 1 ใน 3 ของวงการอสังหาฯ สร้างรีสอร์ท คอมเพล็กซ์ ด้านหน้ารีเจนท์ ชะอำ มี.ค.

นางปิยะมาน เตชะไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการโรงแรมรีเจนท์ ชะอำ บีช รีสอร์ท เปิดเผยว่า มีแผนพัฒนาที่ดิน 100 ไร่ ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามโรงแรมใน 1-2 ปีข้างหน้า หากสถานการณ์การเมืองเป็นปกติ โดยเบื้องต้นมองไว้ 3 แนวทาง คือ พัฒนาเป็นศูนย์การค้าครบวงจร (คอมเพล็กซ์) บ้านเดี่ยวเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเช่าระยะยาว หรือเป็นศูนย์สุขภาพสำหรับดูแลผู้สูงอายุ โดยดึงโรงพยาบาลเข้ามาร่วมมือด้วย

ขณะเดียวกันได้จับมือบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ติดอันดับ 1 ใน 3 ในอุตสาหกรรม พัฒนาโครงการคอนโดมีเนียมรูปแบบ รีสอร์ท คอมเพล็กซ์ บนพื้นที่ 8 ไร่ หน้ารีเจนท์ ชะอำฯ โดยจะเปิดตัวโครงการระยะแรก เดือน มี.ค. คาดว่า เมื่อโครงการแล้วเสร็จ จะช่วยสนับสนุนให้มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการที่โรงแรมรีเจนท์ ชะอำฯ เพิ่มตามด้วย

นางปิยะมาน กล่าวถึงแผนการดำเนินงานโรงแรมรีเจนท์ ชะอำฯ ปีนี้ว่า ได้ปรับภาพลักษณ์โรงแรมใหม่ หลังหมดสัญญาเครือโรงแรมระดับนานาชาติ (อินเตอร์เนชั่นแนล โฮเต็ล เชน) ฮอลิเดย์ อินน์เมื่อวันที่ 8 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยได้กลับมาใช้แบรนด์ รีเจนท์ ชะอำฯ เช่นเดิม เนื่องจากเป็นแบรนด์ที่นักท่องเที่ยวจดจำได้ และนักท่องเที่ยวมีพฤติกรรมนิยมการจองห้องพักผ่านอินเทอร์เน็ตด้วยตัวเองมากขึ้น ซึ่งทางโรงแรมจะบุกตลาดในส่วนนี้มากขึ้น โดยตั้งเป้าหมายให้โรงแรมมีรายได้รวมปีนี้ 300 ล้านบาท เพิ่ม 10% จากปี 2555

น.ส.ประชุม ตันติประเสริฐสุข ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมรีเจนท์ ชะอำฯ กล่าวว่า มีแผนจะทำการตลาดร่วมกันกับพันธมิตรโรงแรมอื่นๆ ในพื้นที่ชะอำ-หัวหิน ทั้งการออกงานโรดโชว์ เทรดโชว์ ทำแคมเปญส่งเสริมการขายร่วมกันเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้พื้นที่

นอกจากนี้ ยังได้ติดต่อบริษัทเอกชนจัดรถสาธารณะวิ่งรับส่งนักท่องเที่ยวจากหัวลำโพง-ชะอำ-หัวหิน-ปราณบุรี วันละ 5-6 เที่ยว รองรับกลุ่มลูกค้าที่ไม่มีรถส่วนบุคคล ให้เดินทางสะดวกขึ้น สำหรับโรงแรมรีเจนท์ ชะอำฯ ยังได้ใช้งบสำหรับการรีแบรนด์ 10 ล้านบาท ปรับตราสัญลักษณ์(โลโก้) ใหม่ ให้มองเห็นภาพลักษณ์รีเจนท์ ชะอำฯ เป็นคนรุ่นใหม่ที่มีเสน่ห์ โดยจะเน้นเจาะตลาดคนรุ่นใหม่ อายุ 20-40 ปี

มากขึ้นด้วยการเข้าไปทำการตลาดร่วมกับเว็บไซต์ขายสินค้าและบริการท่องเที่ยว(โอทีเอ) 20 เว็บไซต์ เบื้องต้น 1 เดือนหลังจากเริ่มบุกตลาดออนไลน์ มียอดจองห้องพักจากตลาดในและต่างประเทศแล้วหลักล้านบาท

สำหรับตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติใหม่ๆ ที่จะเน้นบุก ได้แก่ แอฟริกาใต้ ฝรั่งเศส ซึ่งชื่นชอบการท่องเที่ยวประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมเป็นหลัก แต่นิยมท่องเที่ยวหาดทรายชายทะเลพ่วงท้ายก่อนกลับประเทศ ที่ผ่านมามักเดินทางไปทะเลภาคใต้ฝั่งอันดามันเป็นหลัก แต่เนื่องจากพื้นที่นั้นมีนักท่องเที่ยวหนาแน่นแล้ว จึงมองว่ามีโอกาสดึงกลุ่มนี้มาได้ นอกจากนี้ยังมีตลาดอื่นที่สนใจ เช่น จีน และอินเดีย ที่เป็นตลาดระดับบนใช้จ่ายสูง

อย่างไรก็ตามจะเน้นการรักษาฐานลูกค้าเดิมควบคู่ไปด้วย ผ่านการร่วมงานส่งเสริมการขายระดับโลก เพราะที่ผ่านลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มกลับมาใช้ซ้ำ โดยเฉพาะ อังกฤษ เยอรมนี สแกนดิเนเวีย และเนเธอร์แลนด์ บางรายพบว่ามาใช้บริการโรงแรมแล้ว 20-30 ครั้ง ขณะเดียวกันจะรักษาสัดส่วนตลาดการประชุม สัมมนา นิทรรศการ และการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล(ไมซ์) เอาไว้ เพราะเป็นตลาดที่ค่าใช้จ่ายสูง โดยที่ผ่านมาตลาดไมซ์ มีสัดส่วน 45-50% โดยหากเป็นช่วงที่ไม่ใช่ฤดูกาลท่องเที่ยว จะอยู่ที่ 50% แต่หากเป็นฤดูกาลท่องเที่ยว อยู่ที่ 35-40%