posttoday

"โตโยต้า86"ความเร้าใจที่ขับได้ทุกวัน

09 มกราคม 2556

โตโยต้า 86 เป็นรถสปอร์ต ที่ขับในเมืองสนุกคันหนึ่งเลยก็ว่าได้ ทั้งจากอัตราเร่งที่มาได้ทันใจและพวงมาลัยแม่นๆ

โดย...นิธิ ท้วมประถม

มีรถยนต์ไม่มากนัก ที่ผมรู้สึกว่าตื่นเต้นทุกครั้งที่จะก้าวเข้าไปนั่งในห้องโดยสาร และ โตโยต้า 86 คือหนึ่งในรถคันนั้นครับ

โตโยต้า 86 คือรถยนต์สปอร์ต 2 ประตู ตัวจริงเสียงจริงของโตโยต้า ที่เราไม่เห็นหน้าค่าตารถสปอร์ต 2 ประตูของโตโยต้าที่หน้าตาเข้าท่า และดูเป็นรถสปอร์ตจริงๆ มานานเหลือเกิน เพราะโตโยต้า ซิลิก้า โฉมล่าสุด ก็ไม่ได้ใจแฟนรถสปอร์ต 2 ประตู ทั้งในเรื่องของหน้าตา และเครื่องยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.8 ลิตรเท่านั้น

เมื่อเป็นเช่นนั้น ตำนานรถสปอร์ต 2 ประตู ของโตโยต้าจึงเหมือนกับปิดประตูให้กับแฟนๆ รถยนต์ของโตโยต้าไปนานหลายปี

แต่จะว่าไปแล้ว รถสปอร์ต 2 ประตู ของโตโยต้านั้นมีอายุยาวนานมากว่า 20 ปีแล้วครับ ในรหัส AE86 ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในแวดวงคนรับรถ 2 ประตู และด้วยการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดรถสปอร์ตของโลก ทำให้โตโยต้าต้องปรับตัวอย่างมาก

แต่จากโครงการความร่วมมือกันในการพัฒนารถสปอร์ต 2 ประตู ระหว่างโตโยต้า และซูบารุ 2 ยักษ์ใหญ่แห่งวงการรถยนต์ญี่ปุ่น ที่จะพัฒนารถยนต์สปอร์ตร่วมกัน โดยนำจุดเด่นของแต่ละค่ายมา รวมกันเป็นหนึ่งเดียว

สำหรับความร่วมมือดังกล่าวนั้น โตโยต้า นำเครื่องยนต์ตระกูล BOXER ซึ่งเป็นเครื่องยนต์วางขวางของ ซูบารุ มาใช้ ขณะที่ซูบารุนำเทคโนโลยีช่วงล่างและระบบกันสะเทือนของโตโยต้าไปใช้

ซึ่งโตโยต้า ก็มาเป็น โตโยต้า 86 ส่วนซูบารุ ก็เป็น BRZ ซึ่งทั้ง 2 รุ่นนี้ถือว่าเป็นรถสปอร์ตสัญชาติญี่ปุ่น ที่ได้รับการจับตามองจากสื่อรถยนต์ทั่วโลกเลยทีเดียว

ถือว่าเป็นการเปิดศักราชใหม่ของรถสปอร์ต 2 ประตูของโตโยต้าอีกครั้งเลยก็ว่าได้

"โตโยต้า86"ความเร้าใจที่ขับได้ทุกวัน

รูปร่างหน้าตาของเจ้า โตโยต้า 86 นั้นต้องบอกว่าเฉี่ยว เปรี้ยว ไม่น้อยเลยทีเดียว ยังคงความเป็นรถสปอร์ต 2 ประตู ไว้ได้อย่างดีเยี่ยม เรียกได้ว่าขับไปทางไหน ก็ต้องมีแต่คนเหลียวมองก็ว่าได้ แต่ในความเฉี่ยวนั้น ส่วนตัวแล้วผมชอบด้านหลังของ โตโยต้า 86 ในส่วนของไฟท้ายครับ สวยสะดุดตาดี แถมยังมีท่อไอเสียเป็นท่อคู่อีกด้วย ดุดันดีเหลือเกิน

แต่ไม่ค่อยชอบกับสปอยเลอร์หลังเท่าไหร่นัก ซึ่งโตโยต้า 86 รุ่นที่บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ (ประเทศไทย) นำมาให้ลองขับนั้นเป็นรุ่น Top ครับ แต่หากเป็นรุ่นสแตนดาร์ด จะไม่มีสปอยเลอร์หลังติดมาให้ กลับทำให้ผมชอบแบบเรียบๆ นี้มากกว่าแฮะ...

ส่วนด้านหน้าของ โตโยต้า 86 ผมว่าสวยสู้คู่แฝดอย่าง BRZ ไม่ได้ ไฟหน้าแบบ HID พร้อมไฟหรี่แบบ LED ดูเฉี่ยวก็จริง แต่ไม่ค่อยดุเท่าไหร่ ยังดีที่มีกระจังหน้าแผงเบ้อเริ่มสไตล์ใหม่ มาดสปอร์ต นั่นแหละ ที่ทำให้เจ้าโตโยต้า 86 ดูดุขึ้นเป็นกอง

ดูภาพรวมแล้ว โตโยต้า 86 เป็นรถสปอร์ต 2 ประตู ที่น่าดูพอตัวทีเดียวครับ แน่นอนว่าเหมาะกับวัยรุ่น วัยมัน ที่ชื่นชอบรถสปอร์ต นั่ง 2 คน สัมภาระไม่ต้องเยอะ ไม่ใช่ว่าไปไหนขนของแบบย้ายบ้านนี่ไม่เหมาะ ที่สำคัญตำแหน่งในการนั่งค่อนข้างต่ำ ใครที่มีอายุละก็ กว่าจะลงนั่งกว่าจะลุกขึ้นมายืนในท่าปกติได้ งกๆ เงิ่นๆ แหงๆ แนะนำว่าถ้าหัวเข่าไม่แข็งแรง ลุกนั่ง ในตำแหน่งที่นั่งต่ำๆ แล้วท่าไม่งาม ตัดใจไปมองรถรุ่นอื่นดีกว่าครับ ไม่อย่างนั้นถูกเพื่อนร่วมถนนมองแบบเย้ยหยัน เวลาลงรถแน่ๆ

เปิดประตูรถแล้วมองเข้าไปในห้องโดยสารต้องยอมรับว่า การตกแต่งภายในของโตโยต้า 86 ก็ต้องบอกว่าโดนใจจริงๆ กับการตกแต่งในโทนสปอร์ตเริ่มตั้งแต่ เบาะหนังสีแดง ตัดดำ พวงมาลัยสปอร์ตแบบ 3 ก้านหุ้มหนังแท้ มาตรวัดก็เป็นแบบสปอร์ต หัวเกียร์ทรงกลม เหมือนกับเป็นเกียร์ธรรมดา แต่เป็นเกียร์อัตโนมัติ เท่มากกกกก

"โตโยต้า86"ความเร้าใจที่ขับได้ทุกวัน

คอนโซลหน้า มีจอแอลซีดีขนาดใหญ่ เอาไว้แสดงข้อมูลต่างๆ ทั้งเนวิเกเตอร์ ดีวีดี วิทยุ และรายละเอียดทั้งหลาย เรียบแต่ก็ดูดีเหมือนกัน

ก้าวเข้าไปนั่งในห้องโดยสารแบบ|ต้องระวังหน่อย เพราะที่นั่งเตี้ยเหลือเกิน ซึ่งก็เป็นธรรมดาของรถสปอร์ต 2 ประตูอยู่แล้วครับ มานั่งประจำที่แล้วรู้สึกได้เลยว่า โตโยต้าต้องการสื่อให้ โตโยต้า 86 นั้นเป็นรถสปอร์ตแบบเต็มตัว เพราะเบาะนั่งทั้ง 2 ตัวด้านหน้า เป็นเบาะหนังแบบสปอร์ต กระชับตัวดีเหลือเกิน แต่หากต้องการความสบายละก็ ไม่ใช่แน่

แป้นคันเร่ง แป้นเบรก และที่พักเท้า เป็นแป้นอะลูมิเนียมสไตล์รถแข่ง ดูสวยดีครับ แต่พอใช้จริงๆ แล้วผมว่าลื่นไปหน่อย แม้ว่าจะผมจะใช้รองเท้าผ้าใบก็ตาม
กดปุ่มสตาร์ตเครื่องยนต์ เสียงเครื่องยนต์คำรามผ่านท่อไอเสียคู่จากด้านหลัง ดังกระหึ่มออกมาให้ได้ยินแบบไพเราะหูใช้ได้ทีเดียว แม้ว่าจะไม่ถึงขนาดคำรามมากนัก แต่ก็แมนพอตัว

เปลี่ยนตำแหน่งเกียร์เป็นเกียร์ D ลองแตะคันเร่งเบาๆ เจ้าโตโยต้า 86 ก็พุ่งออกจากตำแหน่งเดิมอย่างรวดเร็ว และเร็วกว่าที่ผมคิดเอาไว้เสียอีก เรียกว่าทำหลังติดเบาะตั้งแต่ออกตัวกันเลย

เครื่องยนต์ FA20 ขนาด 2.0 ลิตรแบบ BOXER ที่มีลูกสูบแนวนอน แรงม้าสูงสุด 147 กิโลวัตต์ (200 แรงม้า) ที่ 7,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 205 นิวตัน-เมตร ที่ 6,400 รอบต่อนาที พร้อมด้วยระบบ D-4S ที่มีการทำงานเหมือนระบบวาล์วอัจฉริยะ VVT-i เริ่มทำหน้าที่ของมันอย่างซื่อสัตย์

ผมสนุกกับการกดคันเร่งเพื่อเรียกม้าทั้ง 200 ตัวให้ออกมาวิ่งกันอย่างอิสระ ยอมรับครับว่า อัตราเร่งของโตโยต้า 86 นั้นถึงใจคนชอบความเร็วแน่นอน ไม่ต้องรอรอบเครื่องยนต์อะไรมากนัก และยิ่งปรับเกียร์ให้อยู่ตำแหน่ง S เพื่อลากรอบในแต่ละเกียร์แล้วละก็ สะใจกันไปข้างหนึ่ง

ระบบพวงมาลัย บอกได้เลยว่าแม่นมากสั่งได้อย่างที่ใจต้องการ มุดเป็นมุด เข้าโค้งหนักๆ แบบไว้ใจได้เลยครับ ซึ่งก็ต้องยกความดีให้กับ ช่วงล่างหน้าแบบแม็กเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ส่วนช่วงล่างหลังแบบอิสระปีกนกคู่ พร้อมเหล็กกันโคลง และยางขนาด 215/45R17 ที่เข้ามาช่วยในเรื่องของความหนึบได้เป็นอย่างดี

"โตโยต้า86"ความเร้าใจที่ขับได้ทุกวัน

โตโยต้า 86 เป็นรถสปอร์ต ที่ขับในเมืองสนุกคันหนึ่งเลยก็ว่าได้ ทั้งจากอัตราเร่งที่มาได้ทันใจ ทำให้การเร่งเครื่องในช่วงกระชั้นชิดทำได้ดี พวงมาลัยแม่นๆ ยิ่งช่วยให้การมุดซ้ายป่ายขวา ทำได้อย่างที่ใจอยาก ขนาดของตัวรถไม่ได้ใหญ่มากมายอะไร วงเลี้ยวก็แคบ

ที่สำคัญ ช่วงล่างของ โตโยต้า 86 ไม่ได้กระด้างหนักหนา เหมือนกับรถสปอร์ต 2 ประตูทั่วๆ ไป ยืนยันได้เลยครับว่า สามารถใช้โตโยต้า 86 ใช้งานในชีวิตประจำวันได้สบายๆ หากคุณไม่ต้องกังวลว่าเพื่อนๆ จะขอติดรถไปไหนต่อไหน เพราะคุณต้องลำบากใจที่ต้องเลือกเพื่อนที่ใช่เพียงคนเดียวเท่านั้น ส่วนคนอื่นไว้วันหลังแล้วกัน

พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลัง ก็ใหญ่พอที่จะใส่กระเป๋ากอล์ฟได้ 2 ใบครับ เลือกเอาเองแล้วกันว่าอยากเท่ หรืออยากขนของ

น้ำมันที่ใช้ ตามสเปกบอกว่าต้องเป็นเบนซิน 95 เท่านั้น แต่ถ้าหาเติมไม่ได้ เบนซิน 91 หรือ แก๊สโซฮอล์ 95 ก็ไม่ผิดกติกาอะไร เพียงแต่สมรรถนะในเรื่องของอัตราเร่งจะลดลงไปนิดหน่อยก็เท่านั้น

สนนราคาค่าตัว เริ่มตั้งแต่ 2.49 ล้านบาทสำหรับรุ่นเกียร์ธรรมดา และ 2.56 ล้านบาทสำหรับรุ่นเกียร์อัตโนมัติ แต่ขาดชุดแต่งรอบคัน และ 2.74 ล้านบาท สำหรับเกียร์อัตโนมัติ และชุดแต่งรอบคัน

ใครชอบรถสปอร์ตสมรรถนะดีๆ โตโยต้า 86 ไม่ผิดหวัง ที่สำคัญศูนย์ซ่อมมีทั่วประเทศ ว้าวววววว!!