posttoday

รถคันแรกดันยอดใช้น้ำมันพุ่ง

13 ธันวาคม 2555

เชลล์ฟันธงปี 2556 ความต้องการใช้น้ำมันขยายตัวสูงกว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจ ตามยอดรถพุ่งจากรถคันแรก

เชลล์ฟันธงปี 2556 ความต้องการใช้น้ำมันขยายตัวสูงกว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจ ตามยอดรถพุ่งจากรถคันแรก

นางพิศวรรณ อัชนะพรกุล ผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการตลาดค้าปลีก บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ทิศทางความต้องการใช้พลังงาน โดยเฉพาะพลังงานน้ำมันในปี 2556 จะมีความต้องการเพิ่มมากกว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ที่มีการคาดการณ์ว่าจะมีอัตราเติบโตที่ 4.5%

ทั้งนี้ พิจารณาจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณรถยนต์จากโครงการคืนภาษีรถยนต์คันแรก 1 แสนบาทของรัฐบาล คาดว่าจะส่งผลให้อัตราความต้องการใช้น้ำมันเติบโตขึ้นเพิ่มเป็น 5–6% สูงขึ้นกว่าการเติบโตของการขยายตัวทางเศรษฐกิจ

สำหรับการประกาศยกเลิกการจำหน่ายน้ำมันเบนซิน 91 ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2556 เป็นต้นไป บริษัทได้เตรียมนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ ได้แก่ เบนซิน 95 และแก๊สโซฮอล์ อี 20 สูตรเฉพาะของบริษัทออกสู่ตลาด โดยการเลือกการจำหน่ายน้ำมันทั้งสองชนิดดังกล่าว เป็นไปตามปัจจัยความนิยมของตลาดที่เลือกซื้อรถยนต์อีโคคาร์ ที่สามารถเติมน้ำมันแก๊สโซฮอล์ อี20 ได้

อย่างไรก็ตาม สำหรับการจำหน่ายน้ำมันแก๊สโซฮอล์ อี85 นั้นบริษัทยังไม่มีนโยบายที่จะจำหน่าย เนื่องจากการสำรวจตลาดพบว่า ปริมาณความต้องการใช้ยังมีจำนวนน้อยอยู่ บริษัทจึงยังไม่มีความสนใจ

ขณะที่แผนงานในปี 2556 บริษัทจะใช้เงินลงทุนประมาณ 1,000 บาท เพื่อปรับปรุงและขยายสถานีบริการน้ำมัน โดยปัจจุบันบริษัทมีสถานีบริการน้ำมัน 560 แห่งทั่วประเทศ และจะขยายเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 10 แห่งทั่วประเทศ

นอกจากนี้ จะมีการปรับปรุงรูปแบบสถานีบริการน้ำมัน โดยเฉพาะการเพิ่มบริการใหม่ๆ ให้ลูกค้า เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและครบวงจรยิ่งขึ้น โดยคาดว่าจะมีการปรับปรุงเพิ่มขึ้น 100 แห่งในปีหน้า

ขณะเดียวกันล่าสุด บริษัทได้ลงนามความร่วมมือ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (ซีพีเอฟ) ในการเปิดร้านซีพี ฟู้ด มาร์เก็ต ภายใต้แนวคิด “ซูเปอร์คอนวีเนียนสโตร์” ในสถานีบริการน้ำมันเชลล์ โดยเบื้องต้นจะเริ่มเปิดทดลอง 1 สาขา ภายในเดือน ธ.ค.นี้ โดยใช้เงินลงทุน 10–20 ล้านบาท

“ช่วงแรกจะเป็นการทดลองตลาดเพื่อหาจุดเหมาะสมของตลาด โดยคาดว่าจะใช้ระยะเวลา 3–6 เดือนในการทดลองจากนั้น จะเดินหน้าขยายโดยการปรับเปลี่ยนร้านสะดวกซื้อซีเล็ค เดิมภายในสถานีบริการ เป็นรูปแบบใหม่” นางพิศวรรณ กล่าว

ปัจจุบันสัดส่วนรายได้จากธุรกิจน้ำมันถือเป็นรายได้หลักของบริษัทคิดเป็นสัดส่วนกว่า 80% และธุรกิจค้าปลีกจำนวน 20% ซึ่งความร่วมมือดังกล่าวเป็นการเติมเต็มความครบวงจรภายในสถานีบริการน้ำมันยิ่งขึ้น