posttoday

แอบโซลูทเผยคนไทยนิยมดื่มสร้างภาพลักษณ์

03 ธันวาคม 2555

แอบโซลูทชี้เทรนด์คนไทยดื่มสร้างภาพลักษณ์ หนุนตลาดวอดก้าโตเท่าตัว 17%อัดงบกว่า 200 ล้านบาท ตอกย้ำแบรนด์

แอบโซลูทชี้เทรนด์คนไทยดื่มสร้างภาพลักษณ์ หนุนตลาดวอดก้าโตเท่าตัว 17%อัดงบกว่า 200 ล้านบาท ตอกย้ำแบรนด์

น.ส.จรัสพรรณ ศรีสวัสดิ์ ผู้อำนวยฝ่ายผลิตภัณฑ์ บริษัทเพอร์นอต ริคาร์ด (ประเทศ) ผู้จำหน่าย แอบโซลูท วอดก้า เปิดเผยว่า ภาพรวมการดื่มไวท์สปิริต(วอดก้า)มีอัตราการเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยในปีนี้เติบโตเฉลี่ย 17% จำนวน 2 แสนลัง เทียบกับปีที่ผ่านมา 1.7 แสนลัง ขณะที่อัตราการเติบโตเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา เติบโตสูงสุดเฉลี่ยปีละ 9% เท่านั้น

ทั้งนี้เพราะคนไทยมีความรู้ความเข้าใจในการดื่มวอดก้ามากขึ้น รวมถึงต้องการสร้างภาพลักษณ์ในการดื่มที่ดี โดยเห็นได้ว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคส่วนใหญ่นิยมสั่งวอดก้าควบคู่กับการดื่มวิสกี้ ซึ่งปัจจุบันกลุ่มผู้มีกำลังซื้อสูงจะใช้จ่ายเกี่ยวกับสินค้าประเภทแอลกอฮอล์และไวท์สปิริตช่วงปลายปีเพิ่มขึ้น

"กระแสความนิยมดื่มวอดก้าในประเทศไทยนับจากนี้จะเติบโตสูงขึ้น ขณะที่การดื่มวิสกี้ปีนี้ลดลง 4% ซึ่งปัจจุบันสัดส่วนการดื่มวิสกี้เฉลี่ยที่ 85% วอดก้า 15% บริษัทมีแผนขับเคลื่อนให้คนไทยหันมานิยมดื่มวอดก้าเพิ่มขึ้น ตั้งเป้าใน 3-5 ปีข้างหน้าจะมีสัดส่วนเพิ่มเป็น 20%"น.ส.จรัสพรรณกล่าว 

สำหรับแผนกลยุทธ์การตลาด บริษัทใช้งบประมาณเฉลี่ย 200 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% ของยอดขายทุกปี เพื่อตอกย้ำแบรนด์สินค้า การเพิ่มช่องทางการจำหน่ายให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยปีหน้าเตรียมเจาะกลุ่มสถานบันเทิงขนาดใหญ่และเป็นที่นิยมในแต่ละจังหวัด รวมถึงวางจำหน่ายสินค้าแอบโซลูทในสถานบันเทิงและร้านที่คู่แข่งของบริษัทวางจำหน่ายสินค้า เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า

นอกจากนี้ล่าสุดได้ใช้งบประมาณจำนวน 50 ล้านบาท เปิดแอบโซลูท พาร์ค บนเนื้อที่3,500 ตร.ม.บริเวณพาร์คพารากอน ระหว่างวันที่ 8-31 ธ.ค. นี้ เพื่อเพิ่มยอดการจำหน่ายสินค้าในช่วงดังกล่าวอีก 400 ลัง

น.ส.จรัสพรรณ กล่าวว่า บริษัทเตรียมเปิดตัวสินค้าในกลุ่มซุปเปอร์พรีเมี่ยม แอบโซลูท อีลิกซ์ สินค้าจากประเทศสวีเดน ซึ่งมีราคาจำหน่ายสูงกว่าสินค้าพรีเมี่ยมแบรนด์บาคาดี 15%  แต่บริษัทมั่นใจในคุณภาพสินค้า โดยสินค้าวอดก้ากลุ่มพรีเมี่ยมมียอดการจำหน่ายเฉลี่ยปีละ 3,500 -4,000 ลัง ตั้งเป้ามีส่วนแบ่งทางการตลาดกว่า2,000 ลังในปีหน้า

อย่างไรก็ตามการรุกตลาดอย่างต่อเนื่องในครั้งนี้ บริษัทตั้งเป้ามีส่วนแบ่งทางการตลาดขึ้นเป็นอันดับ 1 ในปีหน้า โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดมากกว่า 50% เทียบจากปัจจุบันบริษัทเป็นอันดับสอง รองจากบาคาดี ซึ่งในปีนี้บริษัทมียอดขายเติบโตเฉลี่ย 30%ตั้งเป้าในอีก 3ปีข้างหน้ายอดขายเติบโตเฉลี่ยปีละ 35%