ภาคีต้านคอร์รัปชั่นเล็งจดทะเบียนนิติบุคคล

ภาคีเครือข่ายคอรัปชั่น เตรียมยื่นจดทะเบียนนิติบุคคล เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการทำงานแก้ปัญหาคอรัปชั่น แต่ยันไม่มีมาตรการบังคับ

นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการภาคีฯ เตรียมยื่นจดทะเบียนนิติบุคคลจัดตั้งองค์กรภายใต้ชื่อ มูลนิธิองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) ทำหน้าที่ตรวจสอบและต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น โดยมีจุดยืนในการทำงานที่เน้นสร้างความน่าเชื่อถือ สร้างเครือข่ายให้มากที่สุด และเป็นศูนย์กลางในการต่อต้านคอรัปชั่น รวมทั้งเป็นต้นแบบในการสนับสนุน ส่งเสริม และชี้นำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในสังคมให้ต่อต้านคอร์รัปชั่น

สำหรับองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่นจะมีบทบาทในการให้ข้อมูล เป็นศูนย์รวมของการทำงานจากทุกภาคส่วน ที่สำคัญคือ ไม่เลือกปฏิบัติหรือเลือกข้าง จะเน้นตรวจสอบหาข้อเท็จจริงในสิ่งที่เป็นที่สนใจของสังคม แต่ยอมรับว่าอาจทำได้ไม่ทุกกรณี เพราะภาคีเครือข่าย ซึ่งกำลังจะเปลี่ยนมาเป็นมูลนิธิองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น(ประเทศไทย) ไม่ได้มีอำนาจทางกฎหมาย ดังนั้นจึงไม่มีอำนาจในการเรียกข้อมูลหรือลงโทษ

ด้านนายวิชัย อัศรัสกร เลขาธิการ ภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น กล่าวว่า ในด้านการตรวจสอบนั้น ได้มีการติดตามการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐอย่างใกล้ชิด และน่ายินดี ที่ภาครัฐเองสนับสนุนเปิดเผยข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างโครงการต่างๆ ซึ่งถือเป็นแนวโน้มที่ดีในการร่วมมือกันต่อต้านคอร์รัปชั่น

อย่างไรก็ตาม การถอนโฆษณาของเอกชนที่เป็นสมาชิกภาคีฯ ในรายการของนายสรยุทธ์ สุทัศนจินดา เป็นการตัดสินใจของแต่ละองค์กร โดยต้องรอดูต่อไปอีก 1 เดือน จะเห็นผลว่า ภาคีเครือข่ายฯมีความเอาจริงเอาจังกับการต่อต้านคอร์รัปชั่นมากน้อยเพียงใด แต่ในกรณีสมาชิกไม่ถอนโฆษณาออก ทางภาคีฯก็ไม่มีมาตรการใด เพราะเป็นสิทธิของเอกชนรายนั้น เช่นเดียวกับประชาชนและสื่อมวลชนที่มีสิทธิส่วนบุคคลว่าจะเลือกรับชม ให้การสนับสนุน หรือจะเสนอข่าวหรือไม่