posttoday

DHLมองไทยขึ้นแท่นฮับขนส่งอาเซียน

19 พฤศจิกายน 2555

ยักษ์ลอจิสติกส์ ดีเอชแอลฯ มองไทย"ฮับ"ขนส่งกระจายสินค้าในอาเซียน ลงทุนกว่า1.9พันล้านบาท ผุดคลังสินค้ายานยนต์

ยักษ์ลอจิสติกส์ ดีเอชแอลฯ มองไทย"ฮับ"ขนส่งกระจายสินค้าในอาเซียน ลงทุนกว่า1.9พันล้านบาท ผุดคลังสินค้ายานยนต์

นายพอล เกรแฮม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารประตำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ดีเอชแอล ซัพพลายเชน เปิดเผยว่าในฐานะที่ดีเอชแอลฯ เป็นแบรนด์ผู้เชี่ยวชาญด้านการขนส่งและกระจายสินค้า(ลอจิสติกส์)ระดับโลก มองว่าในปัจจุบันไทย ถือเป็นประเทศที่มีศักยภาพสูงในด้านทำเลต่อการเป็นศูนย์กลาง(ฮับ)ด้านลอจิสติกส์ ทุกด้านทั้งการขนส่งทางเรือ อากาศ และบก ในระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้(อาเซียน)

ทั้งนี้ สอดคล้องกับแผนธุรกิจดีเอชแอลฯ ในไทย ที่เตรียมใช้งบลงทุนเบื้องต้นกว่า50 ล้านยูโร หรือราว 1,960 ล้านบาท พัฒนาธุรกิจด้านต่างๆ อาทิ การเพิ่มจำนวนยานพาหนะเพื่อขนส่งสินค้า เพิ่มสถานประกอบการ นำเสนอเทคโนโลยีรูปแบบใหม่ พร้อมสนับสนุนโปรแกรมการอบรมเพื่อพัฒนาบุคลากรด้านต่างๆ และเพิ่มการจ้างงานอีกกว่า 2,000 อัตราในอนาคต

นายเควิน เบอร์เรล กรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัทดีเอชแอล ซัพพลายเชน กล่าวว่าในปีหน้าบริษัทวางแผนเปิดตัว ศูนย์กลางการจัดการสินค้าด้านยานยนต์แห่งที่ 2 ที่ นิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด เพื่อรองรับการดำเนินการงานด้านยานยนต์โดยเฉพาะชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกลุ่มธุรกิจหลักของดีเอชแอล ที่คาดว่าอุตฯยานยนต์ในไทยจะขยายการเติบโตสูงขึ้นหลังเศรษฐกิจไทยในภาพรวมฟื้นตัวจากวิกฤตน้ำท่วมใหญ่ในปีก่อน

พร้อมกันนี้ ยังเห็นแนวโน้มอัตราการขยายตัวของตลาดของผู้ผลิตอะไหล่และชิ้นส่วนรถยนต์ต่างๆ ส่งผลให้ประเทศไทยได้รับการจัดเป็น 1 ใน10ประเทศ ที่มีการผลิตสินค้าด้านยานยนต์มากที่สุดในโลก รวมถึงรองรับความต้องการของผู้บริโภคในตลาดการค้ารถยนต์ในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้นอีกด้วย จากโครงการ “รถยนต์คันแรก” ตามนโยบายของภาครัฐ จากปัจจุบันดีเอชแอลฯ มีศูนย์กลางสินค้าด้านยานยนต์1แห่งในจ.ระยอง

ขณะเดียวกันในปีหน้า บริษัทยังวางแผนเปิดตัวศูนย์จัดเก็บและกระจายสินค้า(แวร์เฮาส์)แห่งใหม่ย่านบางนา เพื่อเข้ามารองรับการขยายตัวในธุรกิจด้านการจัดส่งสินค้ากลุ่มค้าปลีก อาทิ สินค้าแฟชัน และสินค้าอุปโภคบริโภคในไทย ที่มีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้นอีกมาก รวมถึงความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นของกลุ่มลูกค้าหลักกว่า 50 รายของดีเอชแอลฯ จากปัจจุบันมี 67 โกดังสินค้ากระจายทั่วประเทศ มีจำนวนพื้นที่ 4.5ล้านตร.ฟุต

อย่างไรก็ตาม จากการที่บริษัทได้ลูกค้ารายใหม่ในไทย คือ บริษัทเป็ปซี่-โคล่า(ไทย) เทรดดิ้ง มาเป็นคู่ค้าการขนส่งและกระจายสินค้าล่าสุดนั้น ซึ่งเป็นไปตามแนวทางพันธมิตรระดับโลกที่จะเข้ามาสนับสนุนด้านผลดำเนินการรายได้บริษัทในสัดส่วนที่ไม่มากนัก จากปัจจุบันบริษัทให้บริการแก่กลุ่มลูกค้าต่างๆ ดังนี้ กลุ่มค้าปลีกและแฟชัน, กลุ่มเทคโนโลยี, กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค และกลุ่มเพื่อสุขภาพ

ทั้งนี้ มีผลการรายงานล่าสุดของสมาคมผู้ค้าปลีกไทย ยังระบุตลาดค้าปลีกจะมีความคึกคักมากขึ้น โดยคาดว่าจะขยายตัวถึง12% ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ในช่วงก่อนหน้านี้ และส่งผลดีกับธุรกิจบริการด้านการขนส่งและกระจายสินค้า จากปีที่ผ่านมาดีเอชแอลฯ ประเทศไทย มีอัตราการเติบโตรายได้30% สูงกว่าจีดีพีประเทศ ซึ่งมาจากปัจจัยหลัก คือ การขยายฐานลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น