โวยกสทช.บอนไซทีวีดาวเทียม
เอกชนโวย กสทช. บอนไซทีวีดาวเทียม เร่งทีวีดิจิตอล ไทยคมหวั่นรายเล็กไม่รอด
เอกชนโวย กสทช. บอนไซทีวีดาวเทียม เร่งทีวีดิจิตอล ไทยคมหวั่นรายเล็กไม่รอด
นายเดียว วรตั้งตระกูล กรรมการผู้จัดการ สายงานแพลตฟอร์ม สตราติจี บริษัท จีเอ็มเอ็ม แซท กล่าวในการสัมนา “อนาคตโทรทัศน์ดาวเทียมภายใต้กฎใหม่ของกสทช.” ว่า กฎ ระเบียบของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เกี่ยวกับการอนุญาตประกอบการเคเบิลและทีวีดาวเทียมยังไม่ชัดเจน และซ้ำซ้อน โดยเฉพาะประเด็นการเรียกเก็บค่าธรรมเนียม 2% รวมกับค่าธรรมเนียมที่ต้องจ่ายเข้ากองทุนพัฒนากิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์อีก 2% ในประเภทใบอนุญาตใดบ้าง ทั้งโครงข่ายและช่องรายการ รวมทั้งถูกจำกัดด้วยอัตราค่าโฆษณาเพียง 6 นาทีสำหรับกิจการโทรทัศน์บอกรับสมาชิก (เพย์ ทีวี) ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการทำงานยากขึ้น
“สำหรับจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ คงยื่นขออนุญาตตามขั้นตอนของกสทช.อยู่แล้ว และคงเวลาโฆษณาไม่ให้เกิน 6 นาทีต่อชั่วโมงอยู่แล้ว แต่ผู้ประกอบการรายเล็กจะอยู่ยาก เพราะปัจจุบันต้นทุนของทีวีดาวเทียมอยู่ประมาณ 3-4 ล้านบาทต่อเดือน ขณะที่อัตราค่าโฆษณาอยู่ประมาณ 2,000 บาท หากถูกจำกัดอีกจะทำให้อยู่ยากขึ้นเท่ากับ ขณะที่กสทช.เร่งผลักดันทีวีดิจิตอลให้เกิดขึ้นอีก เท่ากับเป็นการบอนไซธุรกิจทีวีดาวเทียมที่มีอยู่” นายเดียวกล่าว
นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยคม กล่าวว่า ปัจจุบันลูกค้าของไทยคมกว่า 100 ราย ผลิตรายการกว่า 472 ช่อง ยังไม่เข้าใจกฎ ระเบียบการให้ใบอนุญาตทีวีดาวเทียมของกสทช.มากนัก โดยหลายรายยังลังเลไม่ดำเนินการยื่นขอใบอนุญาต ขณะที่ระยะเวลาที่จะให้ผู้ประกอบการยื่นขอใบอนุญาตภายใน 16 ธ.ค.นี้ คาดว่าจะไม่ทัน จึงอยากให้กสทช.ยืดเวลาและสร้างความเข้าใจกฎ ระเบียบให้ชัดเจนก่อน
“ไทยคม มองว่าอยากให้กสทช.ส่งเสริมอุตสาหกรรมสื่อโทรทัศน์ในทุกรูปแบบ โดยไม่เลือกสื่อและให้สามารถแข่งขันได้อย่างเท่าเทียม บนพื้นฐานเดียวกัน ซึ่งกสทช.อย่าลืมว่าปัจจุบันนี้ทีวีดาวเทียม ถือเป็นทีวีดิจิตอลระบบหนึ่งที่เข้าถึงครัวเรือนไทยมากกว่า 10 ล้านครัวเรือน การออกกฎ ระเบียบต่างๆต้องคำนึงถึงผู้ประกอบการรายย่อยด้วย ถ้ามีเงื่อนไขมากจะเหลือแต่ผู้ประกอบการรายใหญ่เท่านั้น” นางศุภจีกล่าว
พ.อ.นที ศุกลรัตน์ ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ (กสท.) กล่าวว่า กสทช.ให้ความสำคัญกับทุกธุรกิจอย่างเท่าเทียมกัน และให้ความสำคัญกับเคเบิลและทีวีดาวเทียมก่อนด้วย เพราะจะเป็นกลุ่มแรกที่ได้ใบอนุญาต ซึ่งในปีแรก กสท.ยังไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องการประกอบการ เช่น เวลาโฆษณามากนัก และทีวีดาวเทียมที่เป็นออกอากาศแบบฟรี ยิ่งไม่กำหนด
ทั้งนี้ กสท.จะให้ความสำคัญกับเนื้อหาที่ต้องไม่เป็นอันตรายต่อเด็กและเยาวชน เป็นโฆษณาที่ถูกต้องตามกฎหมายทั้งระเบียบของอย.และสคบ. เพื่อดูแลแก้ไขให้สื่อทีวีดาวเทียมที่มีอยู่จำนวนมาก เป็นสื่อที่ดีของสังคม โดยคาดว่าจะเริ่มออกใบอนุญาตได้ภายในเดือนนี้ ครั้งละ 200-300 ราย