posttoday

เอกชนเบรกเจรจาทีพีพี

15 พฤศจิกายน 2555

ส.อ.ท.ห่วงรัฐเสียท่าเจรจาทีพีพี โดยเฉพาะเนกาทีฟ ลิสต์ “โฆสิต” แนะรัฐประเมินความคุ้มค่าก่อนเข้าร่วม

ส.อ.ท.ห่วงรัฐเสียท่าเจรจาทีพีพี โดยเฉพาะเนกาทีฟ ลิสต์ “โฆสิต” แนะรัฐประเมินความคุ้มค่าก่อนเข้าร่วม

เอกชนเบรกเจรจาทีพีพี

นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวถึงการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (ทีพีพี) กับสหรัฐอเมริกา ว่า ที่ผ่านมาไทยมีการเปิดเสรีไปมากแล้ว ประเทศเพื่อนบ้านก็ทำข้อตกลงเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) กันเกือบหมดแล้ว หากไม่ทำวันนี้อนาคตก็จะถูกบีบให้ทำอยู่ดี

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลต้องชั่งน้ำหนักให้ดีว่าได้คุ้มเสียหรือไม่ และทำเมื่อมีความพร้อมจริงๆ ซึ่งเรายังมีเวลาตัดสินใจอีก 1-2 ปี แต่ที่ห่วงคือ การเจรจาที่ไม่ได้เป็นการเจรจาบนโต๊ะ หรือที่เรียกว่าเป็นเนกาทีฟ ลิสต์ มากกว่า เพราะการเจรจาเอฟทีเอกับสหรัฐรอบที่แล้วที่ล้มไปก็เพราะเรื่องแบบนี้

นอกจากนี้ เรื่องที่น่าเป็นห่วงมากกว่า แต่ยังไม่มีใครพูดถึงคือ การที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติแผนการร่วมมือพันธมิตรป้องกันประเทศไทย-สหรัฐอเมริกา 2012 เพราะอาจจะกระทบต่อความสัมพันธ์กับประเทศจีนที่เป็นคู่ค้าสำคัญของไทยด้วย

นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ประธานกรรมการบริหารธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า เป็นโจทย์ที่รัฐบาลต้องคิดว่าผลประโยชน์ที่ไทยจะได้รับนั้นคุ้มค่ากับประโยชน์ที่จะเสียไปหรือไม่ เนื่องจากไทยมีข้อตกลงเอฟทีเอกับหลายประเทศในกลุ่มนี้อยู่แล้ว ขาดเพียงกลุ่มประเทศละตินอเมริกา 2-3 ประเทศ หากมีศักยภาพก็เป็นโอกาสของไทยในการขยายการค้า

นายโฆสิต กล่าวว่า ประเด็นที่น่ากังวลตอนนี้คือการปรับตัวของภาคธุรกิจ เพราะยังให้ความสำคัญกับการปรับตัวเองน้อย เมื่อมีเออีซีการแข่งขันจะเพิ่มขึ้นอย่างหนัก หากไม่ปรับตัวจะเข้าสู่ภาวะถอยหลัง

นางพิมลวรรณ มหัจฉริยวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย กล่าวว่าสิ่งที่ต้องกังวลระหว่างการเจรจาเอฟทีเอไทยกับสหรัฐคืออุตสาหกรรมในภาคบริการ เกษตรกรรม โลจิสติกส์ ภาคการเงิน และธุรกิจไอที รวมทั้งสิทธิบัตรยาที่ต้องระมัดระวังในการเจรจา เพราะต่อไปการผลิตยาราคาถูกในประเทศอาจมีข้อจำกัดมากขึ้น