posttoday

2สไตล์อารมณ์เดียวกัน"เชพโรเลตโซนิค"

24 ตุลาคม 2555

ลองขับเชฟโรเลต โซนิค 5 ประตู และ 4 ประตูในเวอร์ชันเกียร์ธรรมดา กับช่วงล่างที่นิ่ง-นุ่ม-หนึบทุกย่านความเร็ว

โดย...พลพัต สาเลยยกานนท์

หลังจากครั้งก่อนที่ได้ทดลองขับแบบหอมปากหอมคอแต่ยังไม่อิ่มในอารมณ์ กับ “เชฟโรเลต โซนิค รุ่นเกียร์อัตโนมัติ(เอที) 4 ประตู” ไปแล้วนั้นวันนี้ขอพาผู้อ่านทุกท่านไปสัมผัสอีกครั้งแบบเต็มๆ กับ “เชฟโรเลต โซนิค เกียร์ธรรมดารุ่น 4 ประตู” หรือที่เรียกว่า 1.4 MT LT ซึ่งเป็นรุ่นท็อปสุดในรุ่นเกียร์ธรรมดา และน้องใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวมากับ “เชฟโรเลต โซนิค รุ่น แฮทช์แบ็ก 5 ประตู” กันไปเลยในครั้งเดียว

2สไตล์อารมณ์เดียวกัน"เชพโรเลตโซนิค"

งานนี้หน้าตารูปลักษณ์ของเจ้า “โซนิค” นี้ ยอมรับว่าแปลกแหวกแนวทีเดียว เพราะกล้าที่จะฉีกกรอบความคิดแบบเดิมๆ ในรถยนต์ประเภทซับคอมแพกต์ ที่ถ้าได้มีโอกาสดูโฆษณาที่ดึงพรีเซ็นเตอร์ อย่าง จอห์น-วิญญู วงศ์สุรวัฒน์ นักแสดงและนักจัดรายการโทรทัศน์ออนไลน์ชื่อดัง พร้อมด้วย ยิปโซ-รมิตา มหาพฤกษ์พงศ์ นักแสดงและนางแบบรุ่นใหม่ แค่นั้นก็บอกได้แล้วว่าไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน

ทั้งภายในภายนอกที่สุดแปลกแหวกแนว อย่างเช่น ไฟหน้าแบบเปลือยที่ได้แรงบันดาลใจมาจากรถมอเตอร์ไบค์สมรรถนะสูง ซึ่งทำให้ด้านหน้ารถดูมีมิติมากขึ้น ทั้งยังเพิ่มความหรูหราด้วยตัวเรือนไฟสีดำขลับ ซึ่งอยู่คู่กับกระจังหน้าแบบสองช่องพร้อม์โบว์ไทสีทองเคลือบอะครีลิก ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเชฟโรเลต ยิ่งดูเหมือนหุ่นยนต์ทรานซ์ฟอร์เมอร์ ไม่น้อย

ยิ่งเปิดประตูเข้ามาภายในยิ่งสุดแปลกตาไปกับดีไซน์ทั้ง 2 รุ่น กับห้องโดยสารสไตล์ ดูอัล ค็อกพิท ซึ่งแยกส่วนกันชัดเจนระหว่างคนขับและคนนั่งข้างอันเป็นเอกลักษณ์ของเชฟโรเลต พร้อมกับจุดเด่นภายในที่เรียกได้ว่า “ล้ำ” สุดๆ สำหรับหน้าปัดแสดงสถานะรถทั้งแบบดิจิตอลและอนาล็อกสไตล์มอเตอร์สปอร์ต แปลกตาดี

และแน่นอนล่ะความแตกต่างของเจ้าโซนิค รุ่นแฮทช์แบ็ก กับรุ่นซีดาน ต่างกันที่ประตู แล้วถามว่าต่างกันที่ประตูอย่างไร...? ก็ต่างกันที่รุ่นแฮทช์แบ็ก มี 5 ประตู ส่วนรุ่นซีดาน มี 4 ประตู ไงล่ะครับ (ฮา) แต่ความที่เป็น แฮทช์แบ็ก 5 ประตูแล้วนั้น ย่อมมีความอเนกประสงค์หลากหลายอยู่แล้ว

2สไตล์อารมณ์เดียวกัน"เชพโรเลตโซนิค"

ซึ่งงานนี้เชฟโรเลตเน้นย้ำเลยว่า ออกแบบมาเอาใจสาวๆ กันมากกว่าหนุ่มๆ ที่สัดส่วน 60 : 40 และอีกความโดดเด่นของภายนอกของเจ้าตัว 5 ประตู ที่สุดแปลกแหวกแนวกว่าทุกรุ่นในตลาดคือ ที่เปิดประตูหลัง 2 บานครับ เพราะไม่ได้อยู่ในตำแหน่งปกติที่ใต้กระจก แต่กลับไปอยู่ระดับเดียวกับกระจกประตูหลังดูเท่ไปอีกแบบครับ

ความกว้างขวางภายในห้องโดยสารถือได้ว่ากว้างใหญ่ใช้ได้ ทัศนวิสัยในการขับชัดเจนสดใจมาก แต่ี่กระจกมองข้างที่ออกแบบตามหลักพลศาสตร์พร้อมกับดีไซน์ เลยอาจจะทำให้มุมมองกระจกข้างลดประสิทธิภาพในการมองเห็นลงไปบางส่วน สำหรับตำแหน่งการวางอุปกรณ์หรือปุ่มกดต่างๆ ถือได้ว่าสะดวกทุกการใช้งาน

อ้อ เกือบลืม ที่ชอบเป็นพิเศษส่วนตัวอีกอย่างภายในของเจ้า “เชฟโรเลต โซนิค” ทั้ง 2 รุ่นคือ ช่องเก็บของเก็บอุปกรณ์จุกจิก เช่น กระเป๋าสตางค์ โทรศัพท์ กุญแจ หรืออะไรก็ตามที่ติดมือมาเล็กๆ น้อยๆ ก่อนขึ้นรถ เจ้าโซนิคคันนี้มีช่องเก็บของเหล่านี้ที่คอนโซลหน้าไว้รองรับ เพียบ!

ส่วนพื้นที่เก็บของในฝากระโปรงหลังใหญ่อลังการเกินตัว ถ้าประมาณสิ่งของที่ใส่ก็น่าจะประมาณว่าถุงกอล์ฟ 2 ใบสบายๆ พร้อมกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ได้อีก 2 ใบ และอาจจะเหลือพื้นที่ไว้ใส่ของฝากตอนขากลับได้อีก (รุ่น 4 ประตู)

ส่วนด้านหลังของเจ้าตัว 5 ประตูกันบ้าง เพราะเวลาเปิด แฮทช์ หรือ ประตูที่5 ออกมาก็พบกับพื้นที่เก็บของค่อนข้างเยอะ รวมถึงเมื่อปรับเบาะหลังพับได้แบบ 60 : 40 แล้วนั้น ยิ่งเพิ่มพื้นที่เก็บของขนาดใหญ่ได้อีกเพียบ แถมยังเอาใจสาวๆ ด้วยการทำช่องวางรองเท้าใต้ช่องเก็บของด้านหลังเพียงยกขึ้นแล้วก็ใส่ลงไป เท่านี้รถก็จะไม่รกอีกต่อไป

2สไตล์อารมณ์เดียวกัน"เชพโรเลตโซนิค"

มาถึงเครื่องยนต์และสมรรถนะของเจ้า “เชฟโรเลต โซนิค” กันบ้าง ซึ่งมาพร้อมด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1.4 ลิตร DOHC (Double Overhead Camshaft) 100 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดที่ 130 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที เติมน้ำมันอี 20 ได้ พร้อมระบบ Double CVC (Continuously-Variable Cam-phasing) ซึ่งทำงานควบคู่กับเกียร์ธรรมดา 5 สปีด (ในรุ่น 4 ประตู) ส่วนในรุ่น 5 ประตูจะเป็นเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด

ซึ่งจากการลองขับโซนิค 5 ประตู อัตราเร่งขณะออกตัวในช่วงเกียร์ 1–2 ของเจ้า “เชฟโรเลต โซนิค” คันนี้ ช่วงลากรอบขณะออกตัวยังให้ความรู้สึกที่ไม่ค่อยปรู๊ดปร๊าดทันใจเท่าไรนัก อาจจะหน่วงๆ เสียด้วยซ้ำ แต่เมื่อช่วงความเร็วไหลขึ้นไปโดยใช้เกียร์ 3–5 นั้น ถือได้ว่าตอบสนองดีกว่าช่วงออกตัว ซึ่งอาจจะพอเข้าใจได้ว่า รถสไตล์ยุโรปจะตั้งคันเร่งลึกกว่ารถญี่ปุ่นทั่วไป (ต้องกดหนักๆ) ถึงจะตอบสนอง

แต่พอลองในช่วงย่านความเร็วที่ต้องเร่งแซง กลับต้องแปลกใจว่า เมื่อลดจากเกียร์ 5 ลงมา 4 หรือ จาก 4 ลงมา 3 ก็ยังไม่ตอบสนองแบบฉับพลันเมื่อต้องการเร่งแซง ดังนั้นต้องทำความคุ้นเคยกันกับรถในจุดนี้สักนิด

เช่นเดียวกันกับตัว 5 ประตู ที่เป็นเกียร์อัตโนมัติ อัตราเร่งแซงจะต้องรู้ใจกับรถสักหน่อย เพราะจะมีจังหวะหยุดคิดของเกียร์ก่อนออกตัวเร่งแซงไป ซึ่งหากมีการปรับแต่งเพิ่มเติมอีกเล็กน้อยน่าจะลงตัวยิ่งขึ้น แต่ก็ถือว่าสนุกพอสมควรกับการขับแบบเรื่อยๆ

แต่ที่ต้องชื่นชมในสมรรถนะของ “เชฟโรเลต โซนิค” คือ ระบบช่วงล่างที่วิศวกร จีเอ็ม ออกแบบให้โซนิค มีคุณลักษณะการขับขี่สไตล์ยุโรป ซึ่งผสมผสานความนุ่มนวลเข้ากับความคล่องตัวและเสถียรภาพของตัวรถในทุกสถานการณ์การขับขี่ ที่ต้องขอปรบมือให้ว่าทำได้ดีจริงๆ ที่ให้ความรู้สึกมั่นใจในทุกย่านความเร็ว “นิ่ง–นุ่ม–หนึบ” เจ๋งดีๆ

สนนราคาค่าตัวของ “เชฟโรเลต โซนิค รุ่นเกียร์ ธรรมดา (เอ็มที) 4 ประตู” คันนี้อยู่ที่ 5.88 แสนบาท และสำหรับ 5 ประตูราคาอยู่ที่ 6.01 - 6.87 แสนบาท
ที่สำคัญและขอเน้นย้ำตัวโตๆ เลยว่าได้รับสิทธิคืนภาษีในโครงการรถยนต์คันแรก 1 แสนบาทของรัฐบาล เต็มจำนวน 1 แสนบาท!!

2สไตล์อารมณ์เดียวกัน"เชพโรเลตโซนิค"

 

2สไตล์อารมณ์เดียวกัน"เชพโรเลตโซนิค"

 

2สไตล์อารมณ์เดียวกัน"เชพโรเลตโซนิค"

 

2สไตล์อารมณ์เดียวกัน"เชพโรเลตโซนิค"

 

2สไตล์อารมณ์เดียวกัน"เชพโรเลตโซนิค"