posttoday

สุริยะใสยื่นฟ้องศาลเพิ่มขอระงับผลประมูล3จี

17 ตุลาคม 2555

ประมูล 3 จี ยังไม่จบ สุริยะใสยื่นฟ้องศาลเพิ่มเติม ขอระงับผลการประมูลก่อนบอร์ดกทค.มีมติรับรอง18 ต.ค. นี้

ประมูล 3 จี ยังไม่จบ สุริยะใสยื่นฟ้องศาลเพิ่มเติม ขอระงับผลการประมูลก่อนบอร์ดกทค.มีมติรับรอง18 ต.ค. นี้

สุริยะใสยื่นฟ้องศาลเพิ่มขอระงับผลประมูล3จี

นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มการเมืองสีเขียว (กลุ่มกรีน) เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (18 ต.ค.) จะเข้ายื่นคำฟ้องต่อศาลปกครองกลางเพิ่มเติม และขอให้ไต่สวนฉุกเฉินกรณีที่คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) จะประชุมบอร์ดวันที่ 18 ต.ค.เพื่อลงมติรับรองผลการประมูลใบอนุญาตให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ (ไลเซ่นส์) 3 จี 2.1 กิกะเฮิร์ตซ ทั้งที่การประมูลมีข้อน่าสงสัยและไม่เกิดการแข่งขัน 

สำหรับการยื่นคำร้องเพิ่มเติม เพื่อให้ข้อมูลพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการประมูลและผลการประมูลเมื่อวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมาที่พบว่าไม่เกิดการแข่งขันด้านราคาถึง 6 ใบ  เนื่องจากราคาสุดท้ายยังคงเป็นราคาเริ่มต้นที่ใบละ 4,500 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนให้เห็นชัดเจนว่าหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการประมูล 3 จี ของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และ กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เข้าข่ายพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 (พ.ร.บ.ฮั้วะ) 

“ผลการประมูลที่เกิดขึ้นเลวร้ายกว่าที่คาดการณ์ไว้ เพราะไม่ใช่การประมูลเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ แต่เป็นการจัดสรรคลื่นให้เอกชนอย่างลงตัว ซึ่งขณะนี้กลายเป็นวาระของคนทั้งประเทศที่ตั้งคำถามเรื่องราคาต่ำกว่ามาตรฐาน และกทค. ควรใส่ใจสังคมบ้าง”นายสุริยะใสกล่าว

นอกจากการยื่นคำฟ้องเพิ่มเติมแล้ว ยังจะใช้กลไกตามรัฐธรรมนูญทุกช่องทางเพื่อตรวจสอบการประมูลครั้งนี้ทั้งการเข้ายื่นให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อดำเนินการตรวจสอบการกระทำของกสทช.ในครั้งนี้ด้วย

น.พ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการกทค. ด้านคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวว่า จะไม่รับรองผลการประมูลจนกว่าจะได้ข้อมูลขั้นตอนการประมูลและพฤติกรรมการเคาะราคาในแต่ละครั้ง เพื่อศึกษาและวิเคราะห์ว่าการออกแบบประมูลเอื้อต่อเอกชนหรือไม่ ซึ่งหากพบว่าเข้าข่าย พ.ร.บ.ฮั้วะ กทค.ควรต้องเปิดประมูลใหม่

“ทางออกที่ดีในขณะนี้ ควรจะเริ่มขั้นตอนการประมูลใหม่  เพราะราคาที่ออกมาในลักษณะนี้ มีความเสี่ยงสูงมากที่กทค. จะรับรองผล”น.พ.ประวิทย์กล่าว

อย่างไรก็ตาม  การยกเลิกการประมูลครั้งนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการเอกชน เพราะในหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการประมูลกำหนดชัดเจนว่า กสทช.สามารถยกเลิกได้หากมีเหตุแห่งความจำเป็น

รายงานข่าวจากกสทช. ระบุว่า บอร์ด กทค.สามารถประชุมเพื่อมีมติรับรองผลหลังการประมูลวันที่ 16 ต.ค.สิ้นสุดได้ทันที แต่การประชุมไม่เกิดขึ้น เพราะไม่มีกรรมการคนใดกล้าลงมติรับรอง หลังจากราคาการประมูลไม่ขยับถึง 6 ใบ