สวค.แจงรัฐรับจำนำข้าว60%จากผลผลิตทั้งหมด

ผอ.สวค.แจงรัฐรับจำนำข้าว 60% จากผลผลิตทั้งหมด ชี้เป็นการช่วยดึงราคาข้าวขึ้นเพื่อช่วยชาวนา

นายคณิศ แสงสุพรรณ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยนโยบาย เศรษฐกิจการคลัง (สวค.) ชี้แจงเรื่องโครงการรับจำนำข้าวในรายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์ พบประชาชนเมื่อวันที่ 13 ต.ค.โดยระบุว่า การรับจำนำข้าวเป็นการรับทั้งข้าวนาปี 2554/2555 และข้าวนาปรัง 2555 เช่น รับจำนำข้าวเปลือกเหนียว 6 ล้านตัน รับจำนำมาแค่ 5 แสนตัน ประมาณ 7% เนื่องจากชาวบ้านเก็บไว้รับประทานเองและตลาดจัดการเองด้วย และข้าวหอมมะลิผลิต 6 ล้านตัน รับจำนำมา 3.4 ล้านตัน ข้าวนาปีที่เหลือคือ ข้าวเปลือกขาวที่ผลิตแถวภาคกลาง ผลิต 8 ล้านตัน รับจำนำมา 36%

"ในนาปีทั้งหมดรัฐบาลรับจำนำมาประมาณ 7 ล้านตัน 33% ของผลผลิตทั้งหมด ซึ่งรัฐไม่ได้รับจำนำทั้งหมด เรารอให้เอกชนซื้อจนกระทั่งไม่มีใครซื้อเราก็รับซื้อมา วิธีที่รับจำนำคือเพื่อพยุงราคาต้นฤดู ปลายฤดู ทุกครั้งที่เป็นคือต้นฤดูจะราคาถูก เราก็เปิดจำนำเพื่อให้ต้นฤดูดึงราคาขึ้นไป เฉลี่ยราคา เป็นขบวนการที่เราทำปกติ และอีกเรื่องก็คือเราตั้งราคาที่เหมาะสมว่าชาวนาควรจะได้"นายคณิศกล่าว

นอกจากนี้มีข้าวนาปรังออกมาอีก 1 รอบ คือ ประมาณเดือนมี.ค.ถึงประมาณก.ย. ออกมาทั้งหมด 15-16 ล้านตัน รัฐรับจำนำ 14.7 ล้านตัน รวมแล้วทั้งข้าวนาปีและนาปรังที่ออกมาทั้งหมดรวม 21.7 ล้านตันข้าวเปลือก รัฐรับจำนำมาประมาณ 14 ล้านตันที่เป็นข้าวสารแล้วหรือประมาณ 60% ของทั้งหมด

นายคณิศกล่าวอีกว่า ชาวนาปกติที่ปลูกข้าวหอมมะลิประมาณ 20 ไร่ จะได้รายได้ประมาณ 7,300 บาท ต่อครอบครัว ต่อเดือน ซึ่งถามว่าราคาเยอะไหมถ้าเทียบกับราคาที่รัฐบาลให้ 20,000 บาทก็ถือว่าไม่เยอะ ถ้าเทียบเป็นรายบุคคลต่อครอบครัวหนึ่ง เฉลี่ยกันก็ถือว่าต่ำ ในกรณีข้าวขาวปลูกในภาคกลางปลูกได้ 2 ครั้งต่อปี ครั้งหนึ่งปลูกได้ประมาณ 7,700 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน 2 ครั้งก็จะได้ประมาณ 15,000 บาท ถือว่าได้เยอะกว่าชาวนาภาคอีสาน แต่ถ้าเฉลี่ยเป็นรายคนในครัวเรือนก็ยังถือว่าเป็นรายได้ที่ไม่สูงมากนัก