posttoday

กสทช.สั่งเข้มรับของกำนัลค่ายมือถือ

10 ตุลาคม 2555

กสทช.ยกเครื่องจรรยาบรรณใหม่อิงมาตรฐานสากล ห้ามรับอุปกรณ์สื่อสาร ไอโฟน-ไอแพดจากค่ายมือถือ พร้อมห้ามใช้โซเชียลมีเดียแพร่มติบอร์ด

กสทช.ยกเครื่องจรรยาบรรณใหม่อิงมาตรฐานสากล  ห้ามรับอุปกรณ์สื่อสาร ไอโฟน-ไอแพดจากค่ายมือถือ พร้อมห้ามใช้โซเชียลมีเดียแพร่มติบอร์ด

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และ กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ดเมื่อวันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมามติเห็นชอบให้ปรับปรุงระเบียบว่าด้วยจรรยาบรรณใหม่ให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล โดยเน้นในเรื่องการรับของขวัญจากผู้ประกอบการเอกชนในเทศกาลต่างๆ เช่น ปีใหม่ ว่าไม่ควรรับ  โดยเฉพาะอุปกรณ์สื่อสารอย่างไอโฟน และ ไอแพด 

ทั้งนี้  เนื่องจากที่ผ่านมากสทช.ได้ถูกตั้งคำถามจากสาธารณชนถึงความเหมาะสมในการรับของกำนัลจากผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ดังนั้น หลังจากนี้หากผู้ประกอบการนำของขวัญมาให้กรรมการกสทช. ทางสำนักงาน กสทช. จะทำหน้าที่ตรวจสอบในเบื้องต้นก่อนว่าสามารถให้กสทช.ได้หรือไม่

สำหรับการปรับปรุงระเบียบจรรยาบรรณครั้งนี้ถูกเสนอโดย น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ ที่ต้องการให้กรรมการทุกคนเข้ม งวดเรื่องการเบิกจ่ายงบ การรับของขวัญ และการเดินทางไปต่างประเทศชั้นเฟิร์สคลาส ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็น และการใช้งบรับรอง แต่ได้ถกเถียงกันในที่ประชุม เนื่องจากนายสุทธิพล ทวีชัยการ กรรมการ กสทช. ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขใน 2 ประเด็น  คือ เรื่องเบิกจ่ายงบ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ ของการทำงาน และการเดินทางชั้นเฟิร์สคลาส  ซึ่งเป็นสิทธิ์ที่กฎหมายกำหนดไว้อยู่แล้ว 

นายฐากร กล่าวว่า ประเด็นเรื่องการรับของขวัญนั้นโดยเงื่อนไขเดิม กสทช.ไม่มีสิทธิ์รับเลยไม่ว่าจะมีมูลค่ากี่บาท แต่ได้ปรับปรุงให้เป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ที่กำหนดไว้ไม่เกิน 3,000 บาท  เพื่อให้ผ่อนปรนมากขึ้น ขณะที่งบเดินทางไปต่างประเทศ  ได้กำหนดไว้ที่รายละ 3 ล้านบาทต่อปีอยู่แล้ว

นายสุทธิพล ทวีชัยการ กรรมการ กสทช. กล่าวว่า  นอกจากเรื่องดังกล่าวแล้ว  กสทช.หลายคนยังต้องการให้ น.ส.สุภิญญา เคารพมติเสียงข้างมากในที่ประชุม  โดยไม่เผยแพร่ความเห็นส่วนตัวในพื้นที่สาธารณะออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น ทวีตเตอร์ หรือ เฟซบุ๊ก เพราะการทำงานร่วมกันในรูปแบบคณะกรรมการไม่ควรจะดำเนินการใดๆ ที่ทำให้ภาพการทำงานออกสู่สาธารณะในลักษณะที่ขัดแย้งกัน ซึ่งขัดต่อหลักความรับผิดชอบร่วมกัน

อย่างไรก็ตาม ในประเด็นที่ต้องแก้ไขปรับปรุงได้มอบให้คณะอนุกรรมการด้านกฎหมายที่มีนายประสพสุข บุญเดชเป็นประธานรับผิดชอบ เพื่อป้องกันความสับสนจากความพยายามดำเนินการของ น.ส.สุภิญญา ที่ต้องการเบี่ยงประเด็นจากการใช้โซเชียลเน็ทเวิร์กของตัวเองที่เป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้