posttoday

"สิงห์"คำรามจ่อลุยยุโรป

08 ตุลาคม 2555

“สิงห์-คาร์ลสเบอร์ก” สุดปลื้มปิดดีลได้ คว้าเครือข่ายกระจายสินค้าเข้า 150 ประเทศสู่ยุโรปตะวันออก พร้อมบุกเออีซี

“สิงห์-คาร์ลสเบอร์ก” สุดปลื้มปิดดีลได้ คว้าเครือข่ายกระจายสินค้าเข้า 150 ประเทศสู่ยุโรปตะวันออก พร้อมบุกเออีซี

"สิงห์"คำรามจ่อลุยยุโรป ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ

นายสุธาบดี สัตตบุศย์ กรรมการบริหาร บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น ผู้ทำตลาดผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มตราสิงห์ และลีโอ เปิดเผยรายละเอียดของข้อตกลงทางธุรกิจระหว่างบริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น กับ คาร์ลสเบอร์ก กรุ๊ป ผู้ผลิตเบียร์รายใหญ่ของเดนมาร์ก เมื่อวันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมาว่า เป็นข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายจะได้ประโยชน์ร่วมกันในเรื่องการตลาดและกระจายสินค้า โดยเบียร์สิงห์ใช้ประโยชน์จากเครือข่ายกระจายสินค้าของคาร์ลสเบอร์กใน 150 ประเทศทั่วโลก

ทั้งนี้ จากข้อตกลงดังกล่าวจะทำให้เบียร์สิงห์สามารถกระจายสินค้าเข้าไปในภูมิภาคหลักอย่างยุโรปตะวันออก ซึ่งเป็นภูมิภาคที่ยังไม่ได้นำสินค้าไปจำหน่ายได้ ขณะที่คาร์ลสเบอร์กจะใช้ประโยชน์จากเครือข่ายกระจายสินค้าของเบียร์สิงห์ใน 50 ประเทศ รวมทั้งจะมีความร่วมมือในการกระจายสินค้า การทำตลาดร่วมกันเพื่อรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในปี 2558 ต่อไป

นอกจากนี้ คาร์ลสเบอร์กยังจะช่วยเข้ามาเสริมให้กลุ่มสิงห์มีผลิตภัณฑ์เบียร์ที่หลากหลายมากขึ้น โดยคาร์ลสเบอร์กจะเข้ามาเสริมในพอร์ตของเบียร์ระดับบน (พรีเมียม) จากปัจจุบันที่สิงห์มีเบียร์พรีเมียมภายใต้แบรนด์ อาซาฮี และแบรนด์อื่นๆ ในกลุ่มราคาประหยัด (อีโคโนมี) และปกติ (สแตนดาร์ด) คือ ลีโอ และเบียร์สิงห์ ซึ่งการเข้ามาทำตลาดของคาร์ลสเบอร์กในเมืองไทยจะทำให้ตลาดเบียร์ในกลุ่มพรีเมียมกลับมาคึกคักอีกครั้ง

ด้านนายปริญ มาลากุล ณ อยุธยา ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการองค์กร บริษัท ไทยเอเชีย แปซิฟิค บริวเวอรี่ ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เบียร์ไฮเนเก้น ไทเกอร์ และเบียร์เชียร์ กล่าวว่า การเข้ามาทำตลาดของเบียร์คาร์ลสเบอร์กอีกครั้งในกลุ่มพรีเมียมจะส่งผลดีในแง่ทำให้ตลาดมีความคึกคัก และทำให้ตลาดเบียร์พรีเมียม ซึ่งมีสัดส่วนประมาณ 5% ของตลาดเบียร์รวม กลับเติบโตได้อีกครั้งหลังจากตลาดอยู่ในภาวะทรงตัวมาหลายปี

ขณะที่ตลาดส่วนใหญ่ไปขยายตัวในกลุ่มเบียร์อีโคโนมี อีกทั้งยังจะทำให้ผู้ประกอบการในส่วนที่เป็นแบรนด์ท้องถิ่นทั้งกลุ่มไทยเบฟ และสิงห์ คอร์เปอเรชั่น ต้องมีการปรับตัวตามไปด้วย

ปัจจุบันตลาดเบียร์ในเมืองไทยมีมูลค่าการขายรวมประมาณ 1.3 แสนล้านบาท หรือคิดเป็นปริมาณ 2,000 ล้านลิตร โดย 80% เป็นเบียร์ในกลุ่มอีโคโนมี ซึ่งมีเบียร์ช้าง และลีโอ ครองส่วนแบ่งรวมกันสูงสุด และเบียร์กลุ่มสแตนดาร์ด 15% มีเบียร์สิงห์เป็นผู้นำตลาด และเบียร์กลุ่มพรีเมียม โดยมีไฮเนเก้นเป็นผู้นำในตลาดด้วยส่วนแบ่งมากกว่า 90% และที่เหลือเป็นเบียร์แบรนด์อื่นๆ เช่น อาซาฮี เป็นต้น